5 วิธีล้างหน้าที่ถูกต้อง เคลียร์ผิวให้หมดจดได้ไม่ยาก
วิธีล้างหน้า ที่ถูกต้องเรื่องเบสิคที่ควรใส่ใจ แต่น่าแปลกที่สาวๆ หลายคนมักมองข้าม และหันไปใส่ใจกับผลลัพธ์ในขั้นตอนบำรุงผิวมากกว่า แต่เพราะจุดเริ่มต้นของผิวใส สุขภาพดี ไม่ใช่เพียงแค่บำรุงเท่านั้น ต้องให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดผิวหน้าก่อนเป็นอันดับแรก
ทำไมต้องล้างหน้า?
เคยสงสัยไหมว่าทำไมเราต้องล้างหน้าทั้งเช้าและเย็น เพราะตามธรรมชาติผิวหน้าจะมีการขับน้ำมันออกมาเคลือบผิว เพื่อเป็นเกราะป้องกันและรักษาความชุ่มชื้นให้ผิว แต่ทว่ากิจกรรมต่างๆ ที่พบเจอในระหว่างวันทำให้เกิดเหงื่อไคล บวกกับสิ่งสกปรก มลภาวะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเขม่าควันรถ ละอองฝุ่นในอากาศ หรือแม้แต่ฝุ่น PM 2.5 ที่พัดมาเป็นระลอกนั้นสามารถเกาะติดผิวหน้า และเหนียวแน่นมากขึ้นเมื่อผสมเข้ากับน้ำมันที่ถูกขับออกมาเคลือบผิว ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำและเป็นสาเหตุของปัญหาผิวต่างๆ ตามมาให้ต้องแก้ไขไม่จบสิ้น
ดังนั้น การทำความสะอาดผิวหน้าด้วยวิธีการล้างหน้าที่ถูกต้อง จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นที่จะสร้างผิวสวยใส สุขภาพดีให้กับทุกคนได้
วิธีล้างหน้าที่ถูกต้อง เพื่อผิวใสสุขภาพดี
1. ทำความสะอาดมือ
ดูเผินๆ ขั้นตอนนี้อาจไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการทำความสะอาดผิวหน้าเลย แต่เพราะมือเป็นส่วนที่ต้องสัมผัสกับทุกสิ่ง ความสกปรกต่างๆ จึงมักเกาะติดอยู่ที่มือเสมอ นี่เองเป็นจุดอ่อนที่ทำให้สาวๆ หลายคนตกม้าตาย เพราะเมื่อมือที่สกปรกผสมเข้ากับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหน้าแล้วนำมาล้างหน้าต่อ ก็เท่ากับเราเปิดโอกาสให้ความสกปรกจากมือกลับเข้าสู่ผิวหน้าอีกครั้ง แทนที่ผิวหน้าจะสะอาดขึ้นกลับกลายเป็นสกปรกมากขึ้น ดังนั้น สเต็ปแรกของวิธีล้างหน้าที่ถูกต้องควรเริ่มจากการทำความสะอาดมือให้สะอาดเรียบร้อยเสียก่อน
2. เช็ดเครื่องสำอาง
หลังจากที่มือสะอาดเรียบร้อยก็เข้าสู่กระบวนการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างแท้จริง โดยวิธีล้างหน้าที่ถูกต้องควรเริ่มจากการล้างเครื่องสำอางและครีมกันแดดเสียก่อน ซึ่งควรแยกการทำความสะอาดออกเป็น 2 ส่วน คือ บริเวณรอบดวงตากับริมฝีปากและบริเวณผิวหน้าส่วนอื่นๆ สาเหตุที่ต้องแยกออกเป็น 2 ส่วนนั้น เป็นเพราะช่วงบริเวณดวงตาและปากเป็นส่วนที่ผิวเซนซิทีฟมาก และยังเป็นตำแหน่งที่มีเครื่องสำอางสะสมเข้มข้นที่สุด หากเช็ดทำความสะอาดไม่ดีอาจทำให้เกิดริ้วรอยขึ้นได้
- ดวงตาและริมฝีปาก : ควรใช้ผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอางที่ดูแลผิวบริเวณนี้โดยเฉพาะ ซึ่งหากเป็นแบบออยล์แนะนำให้ค่อยๆ นวดวนไปเรื่อยๆ หรือถ้าเป็นแบบน้ำให้ใช้สำลีแผ่นชุปแล้วแปะทิ้งไว้ 10 วิ แล้วค่อยๆ ปาดออกอย่างเบามือ ตรงส่วนที่ชิดกับขอบตาแนะนำให้ใช้คอตตอนบัดค่อยๆ เช็ดทำความสะอาดอย่างเบามือที่สุด
- บริเวณใบหน้า : ในส่วนอื่นของใบหน้าที่ยังคงมีรองพื้น ครีมกันแดดและเครื่องสำอางชนิดอื่นๆ อยู่ ให้ใช้คลีนซิ่ง หรือรีมูฟเวอร์ที่เหมาะกับผิว เช็ดอย่างเบามือตามแนวขนหน้า ไม่ย้อนรูขุมขนเพื่อไม่ให้สิ่งสกปรกเข้าไปอัด อุดตันรูขุมขน
3. ผลิตภัณฑ์เหมาะกับผิวหน้า
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสาวๆ ควรให้ความสำคัญกับการคัดสรรสิ่งดีๆ ให้ตัวเอง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ต้องเลือกให้ตรงกับความต้องการและปัญหาผิวมากที่สุด เพราะไม่มีใครรู้จักสภาพผิวได้ดีเท่าตัวคุณเอง ลองไปหยิบกระจกมาเช็คผิวหน้ากันว่าเราควรใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าแบบไหนถึงจะเหมาะ
- ผิวแห้ง ปัญหาผิวของคนกลุ่มนี้ เกิดจากต่อมไขมันใต้ผิวผลิตน้ำมันเคลือบผิวออกมาได้น้อยเกินไป ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ใช้จึงต้องมีคุณสมบัติที่ไม่ทำให้ผิวหน้าแห้งตึง ควรมีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์ หรือน้ำมันธรรมชาติเพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้ผิว
- ผิวมัน คนผิวมันจะตรงกันข้ามกับคนที่มีผิวแห้งคือ ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากเกินพอดี ทำให้คนกลุ่มนี้มีแนวโน้มเป็นสิวอุดตันได้ง่ายกว่าคนที่มีผิวประเภทอื่น ดังนั้น ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็นแบบ oil-free เพื่อควบคุมความมันให้สมดุล
- ผิวผสม เป็นผิวที่ผสมกันระหว่างผิวแห้งและผิวมัน โดยส่วนใหญ่บริเวณ T-zone จะมันแต่ส่วนอื่นๆ จะแห้ง ผิวกลุ่มนี้สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ได้เกือบทุกประเภท แต่ต้องเลือกสูตรที่มีความอ่อนโยนต่อผิว และเน้นบริเวณ T-zone เป็นพิเศษ
- ผิวแพ้ง่าย สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกสภาพผิว แต่จะพบได้บ่อยกับกลุ่มผิวแห้ง ซึ่งผิวแพ้ง่ายเป็นผิวที่ต้องให้ความใส่ใจกับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เป็นพิเศษ และควรหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่ไม่มีน้ำหอม สี พาราเบน หรือสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว
4. ทำความสะอาดผิว
หลังจากได้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการทำความสะอาดผิว เพื่อผิวสะอาด สวย สุขภาพดี
วิธีล้างหน้าที่ถูกต้องที่แพทย์ผิวหนังแนะนำคือการล้างหน้าตามแนวโพรงขน การล้างหน้าแบบนี้เป็นวิธีที่อ่อนโยนกับผิวที่สุด และไม่ต้องกังวลว่าจะไม่สะอาด เพราะคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ล้างหน้านั้นสามารถดูดซับสิ่งสกปรกและความมันส่วนเกินให้ออกไปพร้อมกับผลิตภัณฑ์ได้โดยไม่ทำร้ายผิวหน้า
เริ่มจากการใช้น้ำอุณหภูมิห้อง หรือน้ำอุ่นล้างหน้าเพื่อเปิดรูขุมขนก่อน จากนั้นใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าทำความสะอาด จากกลางหน้าผากไปจรดกรอบหน้า จากสันจมูกผ่านหน้าแก้มลากลงมากรอบหน้า ลูบตามแนวโพรงขนหน้าของตัวเองอย่างเบามือประมาณ 15 วิ แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น แต่ถ้าให้ดีที่สุดควรเป็นน้ำดื่มที่แช่เย็น เพื่อปิดและกระชับรูขุมขน
Did you know?
รู้หรือไม่ วิธีล้างหน้าไม่จำเป็นต้องใช้นิ้วมือเสมอไป!
นอกจากนิ้วมือที่เราใช้ทำความสะอาดผิวหน้าแล้ว ความก้าวหน้าของนวัตกรรมยุคใหม่ได้ผลิตตัวช่วยที่ทำให้ชีวิตสาวๆ สะดวกสบายมากขึ้นอย่างเครื่องล้างหน้า หรือแปรงล้างหน้าที่ช่วยทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างล้ำลึกและอ่อนโยนได้เช่นกัน
5. โทนเนอร์
วิธีล้างหน้าในขั้นตอนนี้ถือเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้าม เพราะดูเหมือนไม่จำเป็นและสิ้นเปลือง ในขณะที่แพทย์ผิวหนังต่างแนะนำว่าควรใช้ทุกครั้งหลังล้างหน้า นั่นก็คือโทนเนอร์หรือโลชั่นเช็ดผิว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยรีเช็คความสะอาดให้ผิวหน้าในขั้นตอนสุดท้ายของการทำความสะอาด แต่ความพิเศษของโทนเนอร์มีมากกว่านั้น นอกจากช่วยกระชับรูขุมขนและปรับสมดุลให้ผิว ทั้งในเรื่องของค่า PH ที่เหมาะสมกับผิวหน้า สมดุลความชุ่มชื้นที่ผิวหน้าสูญเสียออกไปขณะล้าง ยังทำให้ผิวพร้อมต้อนรับสารสกัดจากการบำรุงในขั้นตอนต่อไปได้อย่างล้ำลึกมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การใช้โทนเนอร์เช็ดผิวยังมีรายละเอียดที่ต้องใส่ใจเช่นกัน แนะนำให้ใช้โทนเนอร์กับสำลีแบบแผ่นจะดีที่สุด ไม่ใช่แค่ประหยัดเท่านั้น แต่เพราะสำลีแบบแผ่นนั้นช่วยให้สาวๆ สามารถคอนโทรลการเช็ดให้สะอาดได้มากกว่า จากนั้นใช้นิ้วกลางและนิ้วนางวางพาดพร้อมกับนิ้วชี้และนิ้วก้อยหนีบแผ่นสำลีไว้ การจับแบบนี้จะช่วยให้การลงน้ำหนักมือไม่รุนแรงต่อผิว จนเกิดการระคายเคืองและริ้วรอยได้ ค่อย ๆ เช็ดทีละครึ่งหน้าจะซ้ายหรือขวาก่อนก็ได้ ด้วยการเช็ดย้อนรูขุมขนขึ้นมา
การทำความสะอาดผิวหน้าอาจจะเป็นเรื่องใกล้ตัวที่หลายคนมองข้ามจุดเล็กๆ ไป แต่จุดเริ่มต้นเล็กๆ ของวิธีล้างหน้าที่ถูกต้อง ก็สามารถเปลี่ยนผิวหน้าของสาวๆ ให้กลับมาสวยใส สร้างโอกาสและสะกดทุกสายตาได้