5 สัญญาณของปัญหาผิวหน้า ที่คนอายุ 25+ ควรรู้ก่อนสาย !
ปัญหาผิว เกิดขึ้นได้ทุกวัย แต่สำหรับคนที่อายุ 25 กลับต้องเจอศึกหนักรอบด้านจากทุกปัญหาผิว ด้วยความร่วงโรยของวัยที่ส่งผลให้กระบวนการทำงานของเซลล์ผิวเริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัด
อายุ 25 ถือเป็นช่วงวัยที่กำลังก้าวข้ามความเป็นเด็กและขยับขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่อย่างเต็มตัว ไม่เพียงแต่วุฒิภาวะที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น ร่างกายและฮอร์โมนภายในต่างก็เปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องของผิวพรรณที่เมื่อก้าวพ้นอายุ 25 เซลล์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผิวพรรณก็เริ่มแสดงความอ่อนล้าและทำงานลดลง อ้างอิงจากหลายๆ งานวิจัยของแพทย์ผิวหนังที่เผยแพร่ออกมานั้น บอกไว้ว่าผิวของทุกคนจะเริ่มลดประสิทธิภาพการทำงานลงเมื่ออายุ 25 ปีขึ้นไป เริ่มจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยเฉพาะโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ที่เริ่มทำงานลดลง รวมกับการสะสมสิ่งเร้าภายในที่ทำร้ายผิวมานาน ไม่ว่าจะเป็นความเครียดหรืออนุมูลอิสระจากมลพิษต่างๆ ส่งผลให้หนึ่งในตัวช่วยสำคัญของการดูแลความชุ่มชื้น และยึดเหนี่ยวเส้นใยโครงสร้างผิวหนังอย่างคอลลาเจนผลิตได้ช้าลง และเสื่อมสภาพลงในอัตราปีละ 1.5 %
คอลลาเจนที่ลดลงแค่ปีละ 1.5% ทำให้ผิวแย่ลงได้จริงหรือ ?
1.5% ต่อปี ดูเผินๆ เหมือนจะเป็นตัวเลขไม่มากมาย แต่กลับส่งผลต่อผิวได้ในระยะยาว เพราะคอลลาเจนที่น้อยลงทำให้การเชื่อมต่อของเนื้อเยื่อในส่วนต่างๆ ของร่างกายอ่อนแอ โครงสร้างผิว ระบบการปกป้องผิวและการฟื้นฟูค่อยๆ ด้อยประสิทธิภาพลงเรื่อยๆ ทำให้เกิดปัญหาผิวต่างๆ อีกมากมาย ดังนั้นสำหรับคนอายุ 25+ ที่ยังอยากมีผิวสุขภาพ หน้าเด็กอ่อนกว่าวัยอยู่เสมอ มาเช็ก 5 สัญญาณปัญหาผิวเหล่านี้กัน ว่าคุณกำลังได้รับ SOS แจ้งเตือนความร่วงโรยของผิวอยู่หรือเปล่า ?
5 สัญญาณของปัญหาผิวหน้า ที่คนอายุ 25+ ควรรู้ก่อนสาย !
1. ผิวหน้าขาดความชุ่มชื้น
ปัญหาผิวแรกๆ ที่คนอายุ 25+ จะต้องพบเจอคือปัญหาผิวหน้าแห้ง ขาดความชุ่มชื้น ซึ่งสาเหตุมาจากการที่ฮอร์โมนและคอลลาเจนผลิตได้น้อยลง ความชุ่มชื้นในผิวจึงลดลงตามไปด้วย บวกกับการอยู่ท่ามกลางแสงแดดที่ทำร้ายชั้นผิวและคอลลาเจนซ้ำไปอีก ผิวจึงยิ่งแห้ง หยาบกร้านไม่สดใส ไม่มีน้ำมีนวลและไม่เรียบเนียน ซึ่งหากใครที่กำลังพบเจอสัญญาณปัญหาผิวเหล่านี้อย่ารอช้า รีบหันมาดูแลผิวหน้าตัวเองได้แล้ว
2. เป็นสิว
ใครว่าหมดช่วงเวลาการเป็นวัยรุ่นแล้วจะเป็นสิวไม่ได้ เพราะสภาพฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไปก็สามารถทำให้เกิดสิวได้เช่นกัน โดยเฉพาะสิวบริเวณรอบปากและคางที่สาวๆ จะต้องเจอทุกเดือนจากฮอร์โมนของรอบเดือน หนุ่มๆ ที่ต้องโกนหนวดเป็นประจำก็อาจจะเจอปัญหาสิวบริเวณนี้ได้เช่นกัน อีกทั้งชีวิตวิถีใหม่ที่ต้องใส่หน้ากากอนามัยอยู่ตลอดเวลา ยิ่งซ้ำเต็มผิวที่อ่อนแอให้เกิดปัญหาผิวอย่างสิวได้ง่ายขึ้นไปอีก และใช้เวลานานขึ้นในการดูแลรักษากว่าที่ผิวจะกลับมาเรียบเนียน ขาวใส ไร้รอยสิว
3. ริ้วรอย
ข้อนี้เป็นปัญหาที่เหล่า Coming of Age ต่างกังวลกันมากที่สุด ซึ่งหากลองมานั่งสังเกตหน้าตัวเองเวลาส่องกระจกให้ดีๆ ก็จะเริ่มเห็นริ้วรอยประปรายช่วงหางตา ใต้ตา หว่างคิ้ว หน้าผาก ร่องแก้ม แม้ว่าจะเป็นเพียงริ้วรอยเส้นเล็กๆ ที่ยังดูไม่ค่อยชัดเจน แต่นี่ก็เป็นสัญญาณเริ่มต้นของปัญหาผิว ที่ส่วนหนึ่งเกิดจากการขาดความชุ่มชื้น ร่วมกับคอลลาเจน อีลาสตินและกรดไฮยาลูรอนในชั้นผิวผลิตได้น้อยลง ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างผิว ผิวจึงยุบตัวลง เกิดริ้วรอยบนใบหน้าปรากฎเป็นสัญญาณเตือนให้เราเห็น
4. รูขุมขนกว้าง แต่งหน้าไม่ติด
สัญญาณต่อมาที่จะทำให้เรารู้ตัวได้ว่าปัญหาผิวกำลังคืบคลานเข้ามาใกล้มากขึ้น คือปัญหารูขุมขนกว้าง ผิวหน้าไม่เรียบเนียน แต่งหน้าไม่ติด ซึ่งอาจจะสังเกตและพบได้ง่ายในกลุ่มคนที่ใช้เครื่องสำอางเป็นประจำ และถึงแม้จะลองแก้ไขด้วยการเปลี่ยนเครื่องสำอางไปมากกว่า 3 แบรนด์แล้วก็ยังเอาไม่อยู่ ตกบ่ายไม่เหลือเครื่องสำอางบนหน้า เห็นรูขุมขนที่กว้างได้อย่างชัดเจน สัญญาณเหล่านี้แหละที่กำลังบอกให้คุณรู้ว่าโครงสร้างชั้นผิวของคุณเริ่มร่วงโรยแล้ว
5. ผิวแห้ง หน้ามันและหมองคล้ำ
ฮอร์โมนและคอลลาเจนที่ผลิตได้น้อยลงหลังผ่านพ้นช่วงวัย 25 ไม่เพียงทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นเท่านั้น แต่ยังทำให้เกราะปกป้องผิวอ่อนแอ ต่อมไขมันทำงานหนักและผลิตน้ำมันออกมาหล่อเลี้ยงผิวเกินความจำเป็น ก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาได้ง่ายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้งขาดน้ำ ผิวหน้ามัน หน้าหมองคล้ำ เป็นสิว เกิดริ้วรอยก่อนวัย สารพัดปัญหาที่เริ่มเข้ามารุมเร้า ทำให้หลายคนต้องเสียทั้งเงินและเวลาเพื่อจัดการปัญหาผิวที่เกิดขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้แหละที่กำลังส่งสัญญาณบอกคุณให้รู้ถึงปัญหาความเสื่อมสภาพของผิว
รู้ถึงสัญญาณและความร้ายกาจที่ผิวหน้าต้องเจอในวัย 25+ แล้ว ดังนั้น อย่าปล่อยให้ผิวหน้าต้องเผชิญกับปัญหาผิวจนอ่อนแอ เกิดปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ รูขุมขนกว้าง หรือริ้วรอยถามหาก่อนวัย ต้องใส่ใจดูแลผิวตั้งแต่เนิ่นๆ ด้วยการทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ ปกป้องผิวด้วยการทาครีมกันแดดเพื่อดูแลคอลลาเจนในผิวเสมอ รวมถึงดื่มน้ำให้เพียงพอ ทาครีมบำรุงผิวและพักผ่อนอย่างมีคุณภาพ ไม่พกความเครียดติดตัว ก็จะช่วยชะลอปัญหาผิวต่างๆ เหล่านี้ให้คนอายุ 25+ มีผิวสวยสุขภาพดีและดูอ่อนกว่าวัยได้แล้ว
และสุดท้ายนี้สำหรับใครที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์เพื่อผิวหน้าให้เหมาะกับวัย แต่ไม่รู้จะต้องเลือกอย่างไร ติดตามอ่านข้อมูลดีๆ ที่เรานำมาแนะนำได้ที่ ครีมบำรุงหน้า ที่สาว 25+ ใช้แล้ว ต้องยกนิ้วให้กับความเลอค่า