เลือกไนท์ครีมอย่างไรให้เหมาะกับสภาพผิว ให้ผิวสวยได้ตลอดคืน

ไนท์ครีม ครีมบำรุงผิวหน้ากลางคืน ตัวช่วยเพิ่มความสวย คืนสภาพผิวเรียบเนียน อ่อนเยาว์ สร้างภูมิคุ้มกันให้ผิวยามหลับใหล แต่เพราะสภาพผิวที่แตกต่างกัน ไนท์ครีมแบบไหนจะตอบโจทย์และใช่สำหรับผิวเราบ้าง?

 

ในบรรดาสกินแคร์ทั้งหลายที่สาวๆ ต่างสรรหามาประโคมผิวกันนั้น เรามักจะสังเกตเห็นว่าแต่ละแบรนด์จะแบ่งการดูแลเป็นเดย์ครีม (Day Cream) และไนท์ครีม (Night Cream) อย่างชัดเจน บางคนไม่เข้าใจว่าทำไมต้องแบ่งให้วุ่นวาย ในเมื่อก็บำรุงผิวได้เหมือนๆ กัน ซึ่งความคิดนี้ก็มีส่วนถูก เพราะไม่ว่าจะเดย์ครีมหรือไนท์ครีมก็มีส่วนช่วยในการบำรุงผิว อีกทั้งเราสามารถนำเดย์ครีมมาใช้ในตอนกลางคืนได้ หรือนำไนท์ครีมมาใช้ในตอนกลางวันได้เช่นกัน เพียงแต่ส่วนผสมบางอย่างไม่จำเป็นสำหรับช่วงเวลานั้นๆ เช่น ถ้านำครีมกลางคืนที่มีส่วนผสมทำให้ผิวไวต่อแสงมาใช้ในช่วงกลางวัน เมื่อโดนแดดก็จะทำให้ผิวถูกทำร้ายได้ง่ายกว่าปกติ หรือนำครีมกลางวันที่มีส่วนผสมในการป้องกันแดดมาใช้ในเวลากลางคืน สารป้องกันแดดก็ไม่มีประโยชน์ต่อผิวแต่อย่างใด แถมยังไปเบียดเบียนเนื้อที่ของส่วนผสมอื่นที่จะคอยเสริมบำรุงผิวอีกต่างหาก

 

 

ผิวสวย_Indiglow9

 

 

เพราะในช่วงเวลากลางวันผิวจะต้องออกไปเผชิญกับสิ่งเร้าต่างๆ มากมาย ครีมที่ใช้จึงต้องมีส่วนผสมที่คอยช่วยปกป้องจากสิ่งเร้าพวกนั้น และในช่วงเวลากลางคืนที่เรานอนหลับ ร่างกายและผิวพรรณจะเปิดสวิตซ์การดูแลอย่างเต็มที่ ครีมที่ใช้จึงควรมีความเข้มข้นสูง เพื่อช่วยเสริมการทำงานของผิวตามกลไกธรรมชาติ มาถึงตรงนี้เชื่อว่าสาวๆ น่าจะเข้าใจคอนเซ็ปต์ของครีมกันบ้างแล้ว ว่าทำไมถึงต้องแบ่งให้ใช้แต่ละช่วงเวลา สำหรับสาวๆ คนไหนที่กำลังมองหาไนท์ครีมให้ตัวเองอยู่ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร เรามีไกด์สำหรับมือใหม่ในการเลือกซื้อครีมที่ตรงใจมาบอกกัน

เลือกไนท์ครีมอย่างไรให้เหมาะกับผิว?

สำหรับสาวๆ มือใหม่ที่อยากมีครีมบำรุงผิวหน้ากลางคืนใช้ก่อนนอน แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร เพราะมีหลายปัจจัยเหลือเกินที่ต้องคิดและทำการบ้านให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ ลองมาดูกันว่ามีปัจจัยไหนบ้างที่ควรต้องพิจารณา

 

1. สำรวจอายุ

ผิวชุ่มชื้น ฉ่ำน้ำ ล็อกให้ยาวนานด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ซึมเร็ว

 

 

  • ช่วงอายุ 20 – 29 ปี

สาวๆ ในวัยนี้ส่วนใหญ่ยังเป็นวัยรุ่นไปจนถึงวัยทำงาน ปัญหาที่มักจะพบเจอได้บ่อยที่สุดคือผิวแห้ง เพราะการนั่งทำงานในห้องแอร์ที่ออฟฟิศจะทำให้ผิวสูญเสียน้ำได้ง่าย

 

ไนท์ครีมที่เหมาะกับช่วงวัยนี้ ควรเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติเพื่อช่วยเติมความชุ่มชื้น สร้างความแข็งแรงให้เกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) เพิ่มความหยืดหยุ่นให้ผิวในการป้องกันริ้วรอย และเพื่อให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใส มีออร่ามากขึ้น ให้มองหาส่วนผสมของ AHA หรือกรดผลไม้ที่ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวและขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกได้เร็วขึ้น

 

  • ช่วงอายุ 31 – 39 ปี

นี่คือเวิร์คกิ้งวูแมนที่แท้ทรู ผิวหน้าของสาวๆ วัยนี้จะรับบทหนักตลอดทั้งวัน ด้วยเมคอัพ ฝุ่น ควัน และบวกเพิ่มด้วยความเครียด ประกอบกับเมื่อย่างเข้าเลข 3 ระยะการผลัดเซลล์ผิวจะช้าลง ทำให้ผิวไม่กระจ่างใส คอลลาเจน อีลาสตินในผิวก็น้อยลง เกิดปัญหาความหย่อนคล้อยและริ้วรอยแห่งวัย

 

ไนท์ครีมที่เหมาะกับช่วงวัยนี้ ต้องมีส่วนผสมที่คอยช่วยเสริมการทำงาน หรือมีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินให้กลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดิม และที่สำคัญที่ขาดไม่ได้คือต้องเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว รวมถึงส่วนผสมของ AHA, BHA, เรตินอลหรือเซรั่มวิตามินซีบริสุทธิ์ เพื่อช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นอีกด้วย

 

  • ช่วงอายุ 40 ขึ้นไป

เป็นวัยที่ผิวแสดงปัญหาสะสมจากช่วงอายุที่ผ่านมาได้อย่างชัดเจน ทั้งการใช้ชีวิตด้วยความเคยชิน มลภาวะต่างๆ และระดับฮอร์โมนที่เริ่มเปลี่ยนแปลงเข้าสู่วัยทองจะยิ่งทำให้ผิวแห้งกร้านมากกว่าเดิม อีกทั้งริ้วรอย ร่องลึก ความหมองคล้ำก็จะพุ่งตัวปรากฎให้เห็น

 

ไนท์ครีมที่เหมาะกับช่วงวัยนี้ ควรจะเป็นครีมต่อต้านริ้วรอยควบคู่กับมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีความเข้มข้นสูง เพื่อเติมเต็มความชุ่มชื้นที่หายไปจากฮอร์โมน และช่วยกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจน อีลาสติน ให้ริ้วรอยร่องลึกดูตื้นขึ้น ต้องมีคุณสมบัติการดูแลครบเครื่องตามนี้ถึงจะคู่ควรกับสาววัย 40 อัพที่สุด

 

2. สังเกตสภาพผิวหน้า

 

 

  • ผิวแห้ง สำหรับสาวที่มีพื้นฐานเป็นคนผิวแห้งนั้น ต้องยอมรับว่าผิวค่อนข้างเซ้นซิทีฟง่ายและไวต่อการแพ้ สิ่งสำคัญคือการเติมความชุ่มชื้นเพื่อให้ผิวแข็งแรงและคืนความสมดุล ดังนั้น เนื้อครีมบำรุงจึงค่อนข้างเข้มข้นและมีสรรพคุณในการเติมน้ำให้ผิว หรือมีส่วนผสมของ Q10 ที่ช่วยป้องกันคอลลาเจนให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ในการผลิตไฮยาลูรอนิคเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
  • ผิวมัน สาวผิวมันมักจะมีน้ำมันใต้ผิวออกมาหล่อเลี้ยงผิวมากกว่าปกติ เพราะฉะนั้นให้เลือกครีมชนิดออยล์ฟรี หรือน้ำมันน้อย จะได้ไม่เพิ่มความมันบนใบหน้าจนเกิดการอุดตัน ทำให้เกิดปัญหาผิวอื่นๆ ตามมา และต้องมีส่วนผสมของสารเพิ่มความชุ่มชื้นที่เพียงพอกับผิวด้วย
  • ผิวมีปัญหา สำหรับใครที่มีปัญหาผิวหน้าอยู่ด้วยแล้ว การเลือกครีมอาจจะต้องคัดสรรเป็นพิเศษเสียหน่อย ให้ลองมองหาครีมที่ให้ความชุ่มชื้นและช่วยเสริมประสิทธิภาพในการดูแลปัญหาผิวควบคู่กันไป

 

สำหรับคนที่กำลังเริ่มต้นในการใช้ไนท์ครีม หรือครีมบำรุงผิวหน้ากลางคืนในการดูแลผิว ไกด์ที่เราแนะนำในการเลือกครีมให้เหมาะกับผิว น่าจะเป็นประโยชน์ในการเรียกคืนความสวย ดูดี อ่อนกว่าวัยได้ เพราะความสวยได้มาจากการดูแล ไม่ใช่ขอพรเอานะสาวๆ

และใหม่ IndiGlow® Wake Up Younger Facial Blanket ครีมบำรุงผิวหน้าที่ดีที่สุด ปลุกเซลล์ผิวขณะที่คุณหลับในรูปแบบทริปเปิ้ลมอยเจอร์ไรเซอร์ (Triple Moisturizer) ดูแล ฟื้นฟูและกักเก็บความชุ่มชื้นให้ยาวนานตลอดคืน มอบความอ่อนเยาว์ให้ผิวในชั่วค่ำคืน ด้วยหลากสารสกัดอันล้ำค่าจากธรรมชาติและโดดเด่นด้วยสารสกัดหลัก DUMAFLORINE® ทิวลิปสีดำ จากประเทศฝรั่งเศสที่ทรงอานุภาพในการบำรุงผิว ซ่อมแซม และปรับสภาพโครงสร้างผิวชั้นในและชั้นนอกให้แข็งแรง ต่อการต้านอนุมูลอิสระ ผสานกับสารสกัดทรงพลังใน IndiGlow White Loc Complex™ และเทคโนโลยีบอลลูนเอฟเฟค (BALLOON EFFECT) ที่ช่วยให้ผิวฟู เนียนเด้ง ฉ่ำน้ำ ลดเลือนริ้วรอย ยกกระชับและลดปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Tips เคล็ดลับการใช้ไนท์ครีมที่ได้ผลและอยากบอกต่อ

ทำความสะอาดผิวหน้าให้เรียบร้อยและใช้ผ้าขนหนูซับหน้าให้แห้ง จากนั้นทาครีมให้ทั่วใบหน้าด้วยการลงน้ำหนักมือให้เบาที่สุด โดยเว้นบริเวณรอบดวงตา นวดวนที่ผิวหน้าเบาๆ จนแน่ใจว่าเนื้อครีมซึมลงผิวจนหมด อย่าลืมทาเผื่อลงมาที่ช่วงคอด้วยเพื่อให้ผิวได้รับการดูแลไปพร้อมๆ กัน และจะให้ดีที่สุดควรทาก่อนเข้านอน 30 นาที


Related Posts

Leave a comment