10 ข้อสงสัยที่คนอยากมี “ผิวสวยหน้าใส” ต้องรู้ ! เกี่ยวกับการล้างหน้า

รู้หรือไม่ ? ถ้าอยากมี “ผิวสวยหน้าใส” ต้องเริ่มต้นจากการล้างหน้าทำความสะอาดผิวอย่างถูกวิธี แม้จะดูเหมือนเป็นเรื่องเบสิก ไม่มีขั้นตอนอะไรยุ่งยาก แต่สำหรับบางคนก็ยังคงมีคำถามว่า ทำไมล้างหน้าแล้วยังมีปัญหาผิวอื่นๆ ตามมาให้แก้จนแทบไม่ได้หยุดพัก

เราเชื่อว่าสาวๆ หลายคนคงมีคำถามที่คาใจ และอยากรู้เกี่ยวกับการล้างหน้าอยู่มากมาย บทความนี้เราได้รวบรวมคำถามที่ถูกถามถึงกันบ่อยๆ เกี่ยวกับการล้างหน้า พร้อมคำตอบแบบเจาะลึกทุกปัญหาที่อยากรู้ ให้คุณได้เป็นเจ้าของผิวสวยหน้าใสแบบสาวสุขภาพดีแบบไม่ต้องรอนาน พร้อมแล้วเริ่มเลย !

1.ใช้น้ำอุ่นล้างหน้าสะอาดกว่าปกติจริงหรือ ? 

หลายคนที่อยากมีผิวสวยหน้าใส คงเคยได้ยินว่าถ้าล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นจะช่วยเปิดรูขุมขน ทำให้สิ่งสกปรกหลุดออกมาได้ง่ายและทำให้หน้าสะอาดมากขึ้น แต่ในความจริงเราไม่ควรล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น เพราะความร้อนจะดึงเอาความชุ่มชื้นที่จำเป็นต่อผิวออกไป ทำให้ผิวหน้าแห้งกร้าน และต่อยอดให้เกิดริ้วรอยในอนาคตได้ ดังนั้นสาวๆ ควรใช้น้ำอุณหภูมิปกติล้างหน้าดีที่สุด นอกจากทำให้ผิวหน้าสะอาดเพียงพอแล้ว ยังไม่ทรมานผิวและไม่ทำให้ผิวแก่เร็วด้วย

2.คิดว่าล้างหน้าสะอาดแล้วแต่ทำไมสิวก็ยังขึ้น ? 

มีหลายคนสงสัยว่าทำความสะอาดผิวหน้าอย่างดีทุกวัน แต่ทำไมสิวยังขึ้นได้อีก จริงๆ แล้วสิวเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่หนึ่งในสาเหตุหลักก็คือการทำความสะอาดผิวหน้าไม่ดีพอ จนทำให้เชื้อโรค แบคทีเรีย ฝุ่น pm 2.5 และโลหะหนัก ที่มีอนุภาคขนาดเล็กจิ๋วแทรกซึมฝังตัวตามรูขุมขน อุดตันและกระตุ้นให้เกิดการอักเสบจนเป็นสิว ดังนั้นลองเช็กตัวเองดูดีๆ ว่าล้างหน้าสะอาดดีแล้วหรือยัง ?

3.ทำไมยิ่งล้างหน้าผิวยิ่งแห้ง ?

ความเชื่อแบบผิดๆ ว่าการล้างหน้านานๆ หรือล้างบ่อยๆ จะทำให้ผิวหน้าสะอาดมากขึ้น แต่จริงๆ แล้วกลับยิ่งทำให้ผิวแห้งมากขึ้น สาเหตุหนึ่งมาจากสาร SLS (Sodium Lauryl Sulfate) หรือสารที่ทำให้เกิดฟองในโฟมล้างหน้า มีคุณสมบัติช่วยขจัดสิ่งสกปรกและกำจัดไขมันให้หลุดออกได้ง่ายมากขึ้น ทำให้ทำความสะอาดผิวหน้าได้ดีขึ้น แต่เมื่อล้างหน้าด้วยโฟมที่มีสารประเภทนี้เป็นเวลานานจะทำให้ผิวถูกรบกวน จนทำให้ผิวแห้งและระคายเคือง ดังนั้นการล้างหน้าที่ดีไม่จำเป็นต้องใช้เวลานานหรือล้างบ่อยๆ ล้างแค่วันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 30 วินาที – 1 นาทีก็พอแล้ว

4.ทำความสะอาดผิวหน้าแค่ เช้า-เย็น สะอาดพอไหม ? 

อยากมีผิวสวยหน้าใส แค่ทำความสะอาดผิวหน้าด้วยโฟมล้างหน้า หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า เช้า-เย็น ก็เพียงพอแล้ว เพราะถ้าล้างบ่อยเกินไปจะทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นและเกิดการระคายเคือง จนเกิดปัญหาผิวอื่นๆ ได้ แต่สำหรับคนที่มีผิวมัน หรือระหว่างวันหน้ามันเยิ้มจนทนไม่ไหว อนุโลมให้ล้างหน้าระหว่างวันได้ แต่ไม่จำเป็นต้องใช้โฟมล้างหน้า แค่ล้างด้วยน้ำเปล่าที่สะอาดก็ช่วยลดความมันส่วนเกินออกไปได้แล้ว

5.เลือกโฟมล้างหน้ายังไงให้เหมาะกับผิว

คำถามยอดฮิตในการล้างทำความสะอาดผิวหน้า ควรเลือกโฟมล้างหน้าอย่างไรให้เหมาะกับผิว เพราะหากเลือกผิดแทนที่จะมีผิวสวยหน้าใสจะกลายเป็นผิวพังไม่รู้ตัว ดังนั้นสาวๆ ต้องรู้จักผิวหน้าของตัวเองก่อนว่ามีผิวประเภทไหน จากนั้นก็เลือกโฟมที่เหมาะกับสภาพผิวได้เลย

ผิวแห้ง > ควรเลือกใช้เจลหรือครีมล้างหน้าที่มีส่วนผสมของน้ำมันธรรมชาติ เพื่อป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้น

ผิวมัน > ให้เลือกใช้โฟมล้างหน้าหรือสบู่สูตร Oil-free เพื่อควบคุมความมันให้สมดุล และลดการอุดตันที่ก่อให้เกิดสิว

ผิวผสม > สามารถใช้โฟมได้เกือบทุกประเภท แต่บริเวณ T-zone จะมันกว่าส่วนอื่นๆ ดังนั้นควรเลือกสูตรที่มีความอ่อนโยนต่อผิวและควบคุมความมันได้

6.อยากรู้ขั้นตอนการล้างหน้าที่ถูกต้องควรเริ่มจากอะไร ?

การทำความสะอาดผิวหน้าให้ถูกต้อง สามารถเนรมิตผิวสวยหน้าใสให้เราได้ไม่ยาก ซึ่งวิธีล้างหน้ามีเพียง 3 ขั้นตอนง่ายๆ

1. เช็ดเครื่องสำอาง เริ่มจากการกำจัดเมคอัพและครีมกันแดดที่ฉาบผิวหน้าไว้ด้วยคลีนซิ่งก่อน เพราะโฟมล้างหน้าทั่วไปไม่สามารถทำความสะอาดเมคอัพและกันแดดได้หมดจด

2. ล้างด้วยโฟมที่อ่อนโยน หลังจากเช็ดเครื่องสำอางและกันแดดออกแล้ว ก็ล้างหน้าตามปกติด้วยโฟมล้างหน้า หรือผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคน

3. ปิดท้ายด้วยโทนเนอร์ ขั้นตอนสุดท้ายควรใช้โทนเทอร์เช็กความสะอาดไปพร้อมๆ กับปรับสมดุลให้ผิว เพื่อให้ผิวพร้อมรับการบำรุงในขั้นต่อไป

7.ทำไมความชุ่มชื้นถึงมีความสำคัญกับผิว ?

หลายๆ ครั้งเรามักจะเห็นผู้เชี่ยวชาญ หรือคุณหมอผิวหนังย้ำเตือนเสมอเรื่องความชุ่มชื้นของผิว เหตุผลที่ต้องเตือนกันบ่อยๆ เพราะความชุ่มชื้นที่สมดุลจะทำให้ผิวหน้าแข็งแรง มีประสิทธิภาพในการป้องกันสิ่งสกปรกและซ่อมแซมตัวเองได้อย่างดีเยี่ยม ดังนั้นคนที่ชอบล้างหน้าจนผิวรู้สึกตึงๆ เอี๊ยดๆ ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมด่วน เพราะนั่นไม่ได้หมายความว่าผิวหน้าสะอาด แต่ผิวหน้าแห้งเกินไปแล้วต่างหาก นอกจากทำให้ผิวอ่อนแอแล้ว ยังทำให้ผิวแห้ง มีริ้วรอยก่อนวัย และทำให้ต่อมไขมันทำงานหนักเกินความจำเป็น เพราะต้องผลิตน้ำมันออกมาเคลือบผิวเพื่อทดแทนส่วนที่ถูกชะล้างออกไป

8.อยากมีผิวสวยหน้าใส ทำไมคลีนซิ่งถึงจำเป็นกับการล้างหน้า ?

ผู้หญิงกับการแต่งหน้าเป็นของคู่กัน จะแต่งมากแต่งน้อย เราก็อยากแต่งเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเองดูดีอยู่เสมอ ทั้งครีมกันแดด รองพื้น อายแชโดว์ บลัชออน ลิปสติก ซึ่งเมคอัพต่างๆ เหล่านี้มีทั้งความเหนียวและหนืด การทำความสะอาดด้วยโฟมล้างหน้าแบบธรรมดาทั่วไป จึงไม่สามารถล้างเมคอัพและกันแดดออกได้หมด ทำให้เกิดการตกค้างและอุดตันกลายเป็นปัญหาสิว ผิวหมองคล้ำและเหี่ยวย่นได้ ดังนั้น สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผิวสวยสะอาดใส ลดการอุดตันที่ก่อให้เกิดปัญหาผิวต่างๆ ได้คือการใช้คลีนซิ่ง หรือที่เช็ดเครื่องสำอางช่วยล้างสิ่งสกปรกและเมคอัพออกได้อย่างหมดจด

9.ไม่ล้างหน้าตอนเช้า หน้าแก่ได้จริงหรอ ?

หลายคนสงสัยว่าตอนนอนเราอยู่แต่ในห้องนอน ตื่นเช้ามาไม่จำเป็นต้องล้างหน้าก็ได้ ความเชื่อแบบผิดๆ เหล่านี้ ทำให้กลายเป็นพฤติกรรมการล้างหน้าแบบผิดๆ ตามมา เพราะถึงแม้จะนอนอยู่ในห้องแอร์ ไม่ได้ออกไปเจอกับมลภาวะต่างๆ แต่อย่าลืมว่ารอบตัวยังคงมีสิ่งสกปรก และระหว่างนอนหลับผิวหน้ายังคงผลิตน้ำมันเคลือบผิวอยู่ตลอดเวลา หากตอนเช้าไม่ทำความสะอาดผิวหน้า กำจัดสิ่งสกปรกและความมันส่วนเกินออกไป ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวหน้าแก่เร็วขึ้น

10.ตอนนี้ฝุ่นเยอะมาก ล้างหน้ายังไงก็รู้สึกว่ายังไม่สะอาด มีโฟมล้างหน้าที่ช่วยล้างฝุ่นโดยเฉพาะหรือไม่ ?

ปัญหาฝุ่น PM 2.5 นอกจากทำให้สุขภาพแย่แล้ว ยังทำให้ผิวหน้ามีปัญหาด้วยเช่นกัน เพราะด้วยอนุภาคขนาดเล็กที่แทรกซึมเข้าผิวได้ง่าย บวกกับความร้ายกาจของโลหะหนักที่พ่วงติดอยู่กับตัวฝุ่น ทำให้ผิวเกิดการอักเสบได้ง่ายกว่าปกติ การใช้โฟมล้างหน้าธรรมดาไม่สามารถทำความสะอาดสิ่งสกปรกขนาดจิ๋ว และล้างโลหะหนักออกจากรูขุมขนได้ แม้ปัจจุบันจะมีโฟมล้างหน้าที่ช่วยดีท็อกซ์ผิวหน้าได้แต่ก็ยังไม่ตอบโจทย์

IndiGlow Porify Facial Wash โฟมล้างหน้าที่ดีที่สุดในยุคนี้ มาพร้อมนวัตกรรมใหม่ด้วยการนำเทคนิคการล้างสารพิษในวงการแพทย์อย่างคีเลชั่น (Chelation) มาไว้ในตัวผลิตภัณฑ์ โดยคัดสรรสารสกัดพิเศษจากเมล็ดบัควีทเกาหลี เป็นตัวช่วยเข้าไปหนีบจับฝุ่น PM 2.5 และโลหะหนักให้หลุดออกจากผิวหน้า ให้ผิวสะอาดได้อย่างล้ำลึก พร้อมเติมความชุ่มชื้นด้วยน้ำมันเมล็ดเมล่อนทะเลทราย จึงไม่ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นไปในขณะล้าง รวมไปถึงนวัตกรรมหัวแปรงซิลิโคนพรีเมียมเกรดเดียวกันกับที่ใช้ในโรงพยาบาล ที่ช่วยให้การทำความสะอาดผิวหน้าสะอาดมากกว่าการใช้มือถึง 5 เท่า เผยผิวสวยหน้าใส เนียนนุ่ม แลดูอ่อนกว่าวัย ตอบโจทย์ทุกการทำความสะอาดผิวหน้าและการบำรุงผิวโดยเฉพาะ

และนี่คือ 10 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการล้างหน้า ที่เราหาคำตอบแบบเจาะลึกมาให้ครบทุกข้อ หวังว่าสาวๆ จะให้ความใส่ใจมากขึ้นในทุกขั้นตอนการทำความสะอาดผิวหน้าให้ถูกวิธี นอกจากช่วยกำจัดสิ่งสกปรกแล้ว ยังเป็นใบเบิกทางสู่การมีผิวสวยหน้าใส พร้อมสุขภาพผิวที่ดีอย่างยั่งยืนอีกด้วย