บอกลาปัญหา ริ้วรอยใต้ตาและรอยย่น ด้วย 5 วิธีเหล่านี้

ริ้วรอยใต้ตา เรื่องกังวลใจของสาวๆ หลายคน เพราะดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ แต่ดันดูแลและบำรุงไม่ดีจนเกิดริ้วรอย ร่องลึก สร้างความเจ็บช้ำใจ…ทุกครั้งที่ส่องกระจกหรือแต่งหน้า

#เพราะดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ… การมีดวงตาคู่สวย สดใส สามารถสะกดใจและสื่ออารมณ์ความรู้สึกได้ดีไม่แพ้วิธีอื่น แต่บางครั้งการใช้สายตาไปสะกดใจใครนั้น คงไม่ดีแน่หากเขามองกลับมาแล้วแทนที่จะโฟกัสแววตาคู่สวยที่เปล่งประกาย กลับเห็นแต่ความเหี่ยวย่น รอยตีนกาบริเวณหางตา ถุงใต้ตาที่หย่อนคล้อยและความหมองคล้ำรอบดวงตาแทน ดังนั้น จึงควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษในเรื่องการดูแลผิวรอบดวงตา ด้วยความอ่อยโยน เพราะเป็นตำแหน่งที่บอบบางและเซ้นท์ซิทีฟมากที่สุดบนใบหน้า แต่ก่อนจะไปรวบรัดถึงวิธีแก้ มารู้จักสาเหตุต้นตอของมันกันก่อนดีกว่า

สาเหตุริ้วรอยใต้ตาและปัญหาผิวรอบดวงตา

• อายุ เพราะอายุที่เพิ่มมากขึ้นสวนทางกับการทำงานที่ลดลงของคอลลาเจนและอีลาสติน กรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) ในผิวที่ลดลง จะสังเกตได้ว่าช่วงปลายอายุ 20 จะเริ่มมีริ้วรอยใต้ตาและรอบดวงตาบางๆ เกิดขึ้น พออายุ 30 ขึ้นไป ริ้วรอยก็จะลึกขึ้น กลายเป็นรอยเหี่ยว ผิวหย่อนคล้อยและรอยตีนกา ที่ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน
• แสงแดด เพราะสารอนุมูลอิสระที่เพิ่มขึ้นจากแสงแดดบวกกับรังสียูวีเอ มุ่งหน้าบุกเข้าไปทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว ผิวจึงสูญเสียความยืดหยุ่นจนทำให้เกิดริ้วรอยตามมา ยิ่งถ้าอยู่กลางแจ้งแล้วหยีตาบ่อยๆ จะไม่ใช่แค่ริ้วรอยใต้ตานะที่ถามหา แต่จะได้ตีนกาแถมมาด้วย
• เมคอัพ การตกค้างของเครื่องสำอางสามารถทำให้ผิวเกิดริ้วรอยได้ ไม่ว่าจะเป็นอายแชโดว์ อายไลเนอร์ มาสคาร่า ที่ล้างทำความสะอาดไม่หมด รวมถึงน้ำหนักมือที่แรงจนเกินไประหว่างที่เช็ดทำความสะอาด ก็ทำให้ผิวรอบตาระคายเคืองและเกิดริ้วรอยรอบตาได้
• ความชุ่มชื้นที่หายไป ผิวใต้ตาที่ขาดความชุ่มชื้นก็เหมือนดินที่ขาดน้ำ ทำให้เกิดรอยแห้งแตก ดังนั้น พยายามรักษาความชุ่มชื้นบริเวณรอบดวงตาอยู่เสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรอยเหี่ยวย่นที่ใต้ตา
• อารมณ์ความรู้สึก การแสดงออกถึงความสุข โกรธ เศร้า กังวลใจผ่านทางสีหน้าและดวงตา ท่าทางเหล่านี้จะเป็นการกดทับคอลลาเจนใต้ผิว ส่งผลให้กระบวนการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวลดลงและเสื่อมสภาพเร็วขึ้น เกิดเป็นร่องและริ้วรอยอย่างเห็นได้ชัด

และหากลองส่องกระจกแล้วเริ่มเห็นสัญญาณเหล่านี้ก็อย่าเพิ่งแพนิคไป เราสามารถชะลอและลดการเกิดริ้วรอยใต้ตาได้ด้วยวัตถุดิบใกล้ตัว รับรองว่าทำง่ายและได้ผลจริง!

บอกลาริ้วรอยใต้ตา รอยย่นที่บาดใจ ด้วยวิธีธรรมชาติ

1. อโวคาโด

ต้องยกให้เป็นเจ้าหญิงแห่งวงการความงาม เพราะนอกจากมีวิตามินอีที่ช่วยบำรุงผิวพรรณแล้ว ยังอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอความแก่ สาวๆ สามารถนำมามาส์กดูแลผิวใต้ตาได้ ด้วยการเฉือนเอาแต่เนื้อที่ใกล้เมล็ดเพื่อให้เป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวสัก 2 – 3 ชิ้น (ต่อข้าง) มาส์กทิ้งไว้ 20 นาที จะช่วยลดรอยคล้ำ เติมความชุ่มชื้น ป้องกันริ้วรอยใต้ตาจากการสูญเสียความชุ่มชื้นได้ดีอีกด้วย

2. ใบบัวบก

ใครว่าใบบัวบกแก้ได้เฉพาะเรื่องช้ำใน แต่ยังช่วยลดริ้วรอยรอบตาให้เราได้ด้วย เพราะในใบบัวบกมีสารไกลโคไซด์ (Glycosides) ที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสติน ลดการเสื่อมสภาพของผิวที่เป็นต้นเหตุของความหย่อนคล้อย สามารถทำได้โดยนำใบบัวบกมาปั่นกับน้ำเปล่า กรองเอาแต่น้ำมามาส์กทิ้งไว้ 10 – 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นก่อนแล้วจึงตามด้วยน้ำเย็นเพื่อกระชับรูขุมขน

3. น้ำมันมะกอก 

น้ำมันมะกอก น้ำมันที่เหล่ากูรูความงามยกนิ้วให้ แถมยังได้ชื่อว่าเป็นเคล็ดลับประทินโฉมของชาวกรีกมากว่า 4,000 ปี เพราะเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินอีชั้นเยี่ยม ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้เป็นอย่างดี สารมารถเอามาดูแลผิวรอบดวงตาได้โดยนำมานวดเบาๆ บริเวณใต้ตา เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เป็นการชะลอการเกิดริ้วรอยใต้ตาได้ดี

4. แครอท

ถ้าอยากให้ดวงตาคู่สวยอยู่กับเราไปนาน ๆ แครอทถือเป็นตัวเลือกที่ดีการบำรุงสุขภาพดวงตา นอกจากช่วยบำรุงสายตาแล้ว วิตามินเอและเบต้าแคโรทีน (Beta-carotene) ที่มีอยู่สูงในแครอท ก็ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระมากมายที่ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยใต้ตาได้ โดยการนำแครอทมาปั่นละเอียดแบบไม่ต้องแยกกาก มาส์กบนหน้าทิ้งไว้ 15 – 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด เท่านี้ก็สามารถช่วยลดริ้วรอยพร้อมป้องกันการเกิดใหม่ได้แล้ว

5. กาแฟ 

การดื่มกาแฟดำหรือเอสเปรสโซเป็นประจำก็ช่วยชะลอวัยได้ เพราะกาแฟเอสเปรสโซจะทำให้ออกไซด์แตกตัว ลดการสะสมของออกซิเจนที่มีมากเกินไปจนอาจทำให้แก่เร็ว อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระและคาเฟอีนที่ช่วยกระตุ้นผิวให้สดใสแถมสารสีดำของกาแฟก็ช่วยดูดซับสารพิษและสิ่งตกค้างออกจากผิวได้อีกด้วย

มากกว่านั้น กาแฟเอสเปรสโซสามารถช่วยเรื่องริ้วรอยรอบดวงตาโดยตรงได้เช่นกัน ด้วยการใช้ทิชชู่ที่ตัดพอดีดวงตา ชุบกับกาแฟมาวางบนดวงตา แล้วทับด้วยเจลเย็น ทิ้งไว้ 15 นาที จะช่วยลดริ้วรอยใต้ตา ความหมองคล้ำ แถมความเย็นยังช่วยอาการบวมได้ด้วย

นอกจากวิธีธรรมชาติที่สามารถหาได้ง่ายๆ แล้ว ครีมลดริ้วรอยและเซรั่มบำรุงผิวในปัจจุบันก็เป็นอีกทางเลือกที่คุณสามารถบำรุงผิวและป้องกันริ้วรอยใต้ตาได้เช่นกัน คอยช่วยให้ผิวกระชับ เต่งตึง ไม่หย่อนคล้อย หรือมีรอยริ้วต่างๆ มาเยี่ยมเยียนให้กังวลใจ

รวม 2 พลังเพื่อการดูแลผิว ปกป้องปิวจากความร่วงโรยแห่งวัย ด้วยเซรั่มฟื้นฟู ซ่อมแซมเซลล์ผิว ชาร์จพลังผิวเด็ก ร่วมกับครีมบำรุงผิวหน้ากลางคืน ครีมดูแลริ้วรอยที่เติมเต็มความชุ่มชื้นและการต่อต้านอนุมูลอิสระอันทรงพลัง เรียกคืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวได้ทุกวัน

IndiGlow® YOUTH CHARGER FACE SERUM

เซรั่มฟื้นฟู ซ่อมแซมเซลล์ผิว พร้อมชาร์จพลังผิวเด็ก คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิว

IndiGlow® YOUTH CHARGER FACE SERUM

เซรั่มฟื้นฟู ซ่อมแซมเซลล์ผิว พร้อมชาร์จพลังผิวเด็ก คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิว

นวัตกรรมใหม่ของการบำรุงและซ่อมแซมผิว เพื่อผิวหน้าเด็ก เนียนใส อ่อนกว่าวัย ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติกว่า 30 ชนิด โดยแบ่งกลุ่มการดูแลเป็น 3 กลุ่มหลักคือ ฟื้นฟูซ่อมเซลล์ (Cell Repair) ชาร์จความเด็กให้ผิวหน้า (Youth Charger) ย้อนเวลานาฬิกาชีวิตผิว (Derma Clock) และยังช่วยปกป้องผิวหน้าจากแสงสีฟ้า ให้ผิวหน้าเนียนใส ชุ่มชื้น เต่งตึง แลดูอ่อนกว่าวัยอย่างเป็นธรรมชาติ คืนความแข็งแรงให้ผิวได้อย่างแท้จริง

IndiGlow® Wake Up Younger Facial Blanket

ครีมลดริ้วรอย มาส์กหน้า บํารุงผิวกลางคืน เพื่อผิวกระจ่าง สว่างใส ชุ่มชื้นและผิวฟู 400%

ครีมบำรุงผิวหน้าสุตรกลางคืน ที่มีสารสกัดหลัก DUMAFLORINE® ของทิวลิปสีดำ จากประเทศฝรั่งเศส ที่ผ่านกรรมวิธีขั้นสูงจนได้สารฟลาโวนอยด์เข้มข้นชนิด Astragalin Populnin อันทรงอานุภาพแห่งการบำรุงผิว ซ่อมแซม ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระจากมลภาวะต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อม Triple Moisturizer ให้ผิวฉ่ำน้ำได้ยาวนานตลอดคืน ร่วมกับนวัตกรรม IndiGlow White Loc Complex™ ที่ช่วยปรับให้ผิวขาวกระจ่างใสและเทคโนโลยี BALLOON EFFECT ที่คอยปรับให้ผิวฟูขึ้นได้ถึง 400% ลดเลือนริ้วรอยและลดปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลุกเซลล์ผิวแม้ยามหลับใหลยาวนานตลอดค่ำคืน