“อกหัก” อย่าปล่อยให้ร่างพัง กับ 10 ทริค ดามใจสาวโทรมให้สวยแบบสตรอง
“อกหัก” หนึ่งในอาการที่มีผลพวงจากความรักและความสัมพันธ์ที่ไม่อาจไปต่อได้ของคู่รักทั่วโลก จนเกิดภาวะที่เรียกง่ายๆ ว่า… พิษรัก จากสถิติแล้วผู้ชายมักไม่ค่อยแสดงอาการฟูมฟายให้เห็นเท่าไร แต่ผู้หญิงเราบางคนมีอาการโคม่าเหมือนกับเสียหลัก หรือตกจากส้นสูงแบบไม่ทันตั้งตัวทีเดียว
ปรากฏการณ์อกหัก? ช้ำรัก? หรือที่รู้จักกันดีว่าเป็นภาวะที่ร่างกายสูญเสียการควบคุมตัวเองแบบอัตโนมัตินั้น มีข้อมูลที่ระบุได้ชัดเจนว่าเป็นโรคชนิดหนึ่งที่มีชื่อเก๋ๆ ว่า “โรคหัวใจสลาย” นั้นมีอยู่จริง จากข้อมูลอ้างอิงของสถาบันโรคหัวใจและหลอดเลือด มหาวิทยาลัยไอโอว่า ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวถึง โรคหัวใจสลาย (Broken heart syndrome) ไว้ว่า เป็นภาวะที่หัวใจหยุดทำงาน หรือทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากเกิดความเศร้าและเสียใจอย่างรุนแรงจนกระทบการทำงานของหัวใจล้มเหลวคล้ายอาการหัวใจวาย
เมื่อตกอยู่ในสภาวะทิ้งตัวหรืออาการที่เรียกว่าอกหักจนเสียศูนย์นั้น ถือเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากช่วงหนึ่งของชีวิตก็คงไม่ผิดนัก ซึ่งแต่ละคนก็จะแสดงอาการต่างกัน ฝั่งผู้ชายด้วยสัญชาตญาณนักล่าจึงมักเก็บอาการได้แนบเนียนกว่า ในขณะที่ผู้หญิงเรามักมีอาการฟูมฟายให้เห็นมากกว่า อาจจะเริ่มตั้งแต่เคยอยู่ในสภาพเดียวกับนางเอกเอ็มวีที่อยากเดินตากฝน เปิดฝักบัวรดตัว ขังตัวเองอยู่ในห้องคนเดียว มักจะมองโลกในแง่ร้าย เก็บกด จำแต่เรื่องเก่าๆ คิดว่าคนที่รักมีคนเดียวในโลก หรือบางคนก็พีคมากจนกลายเป็นโรคซึมเศร้าและอาจต้องพึ่งพาจิตแพทย์ทีเดียว ซึ่งเคสหลังนี้มักเกิดขึ้นกับรักแรกที่ทุ่มเทมาก หรือคบนานจนมีแพลนแต่งงาน แต่กลับถูกทิ้งแบบฟ้าผ่าไม่ทันตั้งตัว ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นการวางแผนชีวิตที่ผิดพลาดและต้องเริ่มใหม่ทั้งหมดทีเดียว
ต้องบอกว่าภาวะนี้มีได้ตั้งแต่เจ็บนิดๆ เจ็บหน่วงๆ หรือเจ็บหนักก็ขึ้นอยู่กับจิตใจและสติล้วนๆ บางคนไม่นานก็ฟื้นได้ด้วยตัวเอง แต่สำหรับผู้หญิงที่ยังจมอยู่กับความทุกข์และไม่รู้จะก้าวข้ามอย่างไร มาดู 10 ทริค ดามใจสาวโทรมหลังโดนเท ให้ลุกขึ้นมามูฟออนแบบสวยสตรอง เป็นผู้หญิงคนใหม่ที่รักตัวเองจนใครๆ เห็นก็ต้องหยุดมองจนเหลียวหลังไปเลย…
1.อนุญาตให้ตัวเองเศร้า
เป็นวิธีแรกที่คนอกหักลองกันมาแล้วนักต่อนัก และปรากฏว่าได้ผลกว่า 70% คือการกำจัดเวลาให้ตัวเองเศร้าได้ถึงเมื่อไร เช่น ร้องไห้ได้วันละ 15 นาที เปิดเพลงเศร้า 10 นาที แล้วไปจบที่การร้องไห้ใต้ฝักบัวต่อสัก 5 นาที หลังจากนั้นควรหยุดทันทีแล้วไปทำกิจกรรมอื่นต่อไป เหมือนเป็นการสะกดจิตใต้สำนึกตัวเองให้อยู่ในแพลนเวลาที่วางไว้ เมื่อความเศร้าถูกจำกัดว่าไม่ให้ถาโถมหรือโจมตีคุณจนรู้สึกเหนื่อยเกินไป ความรู้สึกอยากปลดปล่อยตัวเองจะเริ่มลดลงและทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลาไม่นาน
2.เรียกตัวเองในเวอร์ชันปกติกลับมา
คนที่เคยอกหักย่อมรู้ดีว่าวีคแรกๆ เป็นช่วงเวลาที่รู้สึกหดหู่และเสียใจหนักมาก เพราะอยู่ๆ สิ่งที่เคย เป็น อยู่ คือ ในทุกวันหายวับไปกับตา ผู้หญิงคนไหนไม่เป๋เราว่าโกหกไม่เก่งนะ อนุญาตให้เศร้าได้ ร้องไห้ได้ ซึมซับและยอมรับความเจ็บปวดให้เต็มที่ แต่อย่ายึดติด อย่ามัวจมปลักอยู่กับพฤติกรรมที่เป็นพิษกับตัวเองนานเกินจำเป็น และพยายามรื้อฟื้นตัวเองในเวอร์ชันก่อนมีแฟนกลับมา ในเมื่อตอนนี้ไม่ต้องนอนดึกเพื่อนั่งเชียร์บอลเป็นเพื่อนเขาแล้ว ดังนั้น อะไรที่เคยชอบแล้วไม่มีโอกาสได้ทำก็ทำซะ
3.ห่างจากโซเชียลสักพัก
เลิกส่องเฟส อัพเดทไอจี หยุดติดตามความเคลื่อนไหวของแฟนเก่าที่ทิ้งคุณอย่างไม่ใยดีได้แล้ว ว่าวันๆ เขาไปไหน ทำอะไรกับใคร เพราะมันยิ่งเป็นการตอกย้ำให้คุณมัดตัวเองกับความรู้สึกว่าไม่มีคุณค่าหลงเหลือพอที่จะรั้งเขาไว้ ลองถามตัวเองดูว่าถ้ายังไม่เลิกเสพติดความเจ็บปวดผ่านหน้าจอ แล้วเมื่อไรจะตัดใจได้สักที ลาออกจากโซเชียลสักพักเพื่อพักใจให้ก้าวผ่านความทุกข์ใหญ่หลวงนี้ให้ได้ก่อนดีกว่า
4.ออกไปเบิร์นไขมันออกจากร่าง
หนึ่งในหลายๆ เรื่องที่คนอกหักมักจะทำคือเดินสายกินแหลกจนตัวแตกน้ำหนักพุ่ง หยุดทำร้ายตัวเองด้วยวิธีนี้เถอะนะ แล้วแบกความโกรธไปโยนทิ้งในฟิตเนส วิ่ง ปั่นจักรยาน โยคะ หรือว่ายน้ำดีกว่า เพราะการออกกำลังกายทำให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นโดรฟินออกมา คุณจะรู้สึกสดชื่น มีพลังและสนุกกับชีวิตมากขึ้น นอกจากได้หุ่นเริ่ดๆ และสุขภาพดีเป็นรางวัลให้ตัวเองแล้ว เผลอๆ อาจได้เจอเพื่อนใหม่สายคลีนที่ชอบเบิร์นเหมือนกันด้วย แต่อย่าหักโหมจนเกินไปล่ะเดี๋ยวจะเยินหนักกว่าเดิม!
5.ให้อิสระกับตัวเอง
เชื่อว่าผู้หญิงหลายคนรักแฟนมากจนยอมเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้เขารัก ตั้งแต่เลิกนุ่งมินิสเกิร์ต (ตามประสาผู้ชายขี้หวง) ไม่ใส่รองเท้าส้นสูง (ในเคสที่คุณสูงเท่าๆ เขา) แต่งหน้าบางๆ งดทาปากสีแรงๆ แบบที่เขาชอบ ฯลฯ แต่ตอนนี้โสดแล้วเป็นอิสระแล้วจะใส่อะไรจะแต่งแบบไหนก็ไม่มีใครว่า เปิดตู้แล้วหยิบกระโปรงสั้นตัวเก่ง รองเท้าส้นสูงคู่โปรด หรือเมคอัพปากแดงที่คุณเคยทาแล้วมั่นนักหนาออกมาจัดเลย รออะไร!
6.ออกเดินทางกับคนรู้ใจ
การไปเที่ยวในสถานที่แปลกใหม่ที่ไม่เคยไป เปลี่ยนบรรยากาศจากสิ่งเดิมๆ ที่เคยพบเจอ เป็นอีกหนึ่งทางออกที่ช่วยสมานบาดแผลที่ฝังอยู่ในใจของคุณให้ทุเลาลงได้ ยิ่งถ้าได้มีโอกาสไปกับสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนสนิทที่รู้ใจ สามารถพูดคุยปรึกษาหรือระบายความทุกข์ได้ ก็ช่วยทำให้สภาพจิตใจที่ห่อเหี่ยว ซึมเศร้า กลับสู่สภาวะปกติได้เร็วขึ้น อย่าลืมว่ากำลังใจจากครอบครัวและเพื่อนสนิทคือยาวิเศษที่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย
7.อัพเดทคลังความรู้ใหม่ๆ
เมื่อไม่ต้องแบ่งเวลาไปดูแลใครแล้ว ขอให้หันมาสนใจตัวเองมากขึ้นด้วยการอัพเดทตัวเองให้มันเต็มที่ไปเลย เคยอยากเข้าคลาสโยคะ อยากเรียนวาดรูป สนใจงานเซรามิค หรือเติมเต็มความรู้ภาอังกฤษให้ตัวเอง จังหวะนี้คือโอกาสดีที่คุณจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวเอง พยายามตักตวงความรู้ต่างๆ ให้ตัวเองมากๆ เพื่อปูทางให้กับอนาคตที่กำลังใกล้เข้ามาแบบมองเห็นรำไรแล้ว เผลอๆ อาจได้เจอเพื่อนใหม่ที่ชอบอะไรเหมือนกันต่อยอดไปธุรกิจด้วยกันได้อีก
8.เรียนรู้การให้อภัย (ผู้ชายคนเก่า)
สิ่งสำคัญที่จะทำให้คุณหลุดพ้นจากความรักและความทรงจำแย่ๆ ก็คือการให้อภัย เลิกตั้งคำถามถึงความสัมพันธ์ที่ผ่านมา อย่าหวนกลับไปหาเรื่องเก่าๆ ที่ทำให้ตัวเองยิ่งดิ่งลงเหว แต่จงให้อภัยจากใจจริง แม้อาจจะยากในช่วงแรกๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไปและเริ่มปล่อยวางได้ สิ่งนี้จะทำให้คุณสามารถเดินต่อได้อย่างเข้มแข็งแบบไม่มีอะไรติดค้างในใจ
9.เปลี่ยนลุคใหม่ให้แซ่บกว่าเดิม
เป็นเรื่องปกติที่เราเห็นคนอกหักตัดผมสั้น ทำสีผมใหม่ เปลี่ยนเมคอัพให้เปรี้ยวขึ้น หรือไม่ก็เปลี่ยนการแต่งตัวแบบฉีกแนวไปเลย แต่ไม่ว่าจะทำไปเพื่อประชดแฟนเก่า หรืออยากอัพลุคให้ตัวเองดีขึ้นก็เป็นเหตุผลที่ดีทั้งนั้น อย่ารอช้าที่จะลุกขึ้นมาดูแลตัวเองให้สวย ตั้งแต่หน้าผม เสื้อผ้า ทำตัวเองให้ดูดีขึ้น เพราะโดยธรรมชาติของมนุษย์เมื่อรู้สึกว่าตัวเองดูดีขึ้น ความรู้สึกมั่นใจและความสุขจะกลับมาแทนที่ความพังก่อนหน้าแบบคาดไม่ถึง ดีไม่ดีอาจมีโมเม้นต์หนุ่มๆ ที่เล็งคุณไว้นานแล้ว มาพร้อมดอกกุหลาบเพื่อขอความรักจากคุณแบบไม่ทันตั้งตัวก็ได้
10.เปิดโอกาสให้กับความรักครั้งใหม่
เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแพลนทั้ง 9 ข้อแล้ว ก็ถึงเวลามูฟออนอีกครั้งด้วยการมีชีวิตใหม่ อย่าเข็ดกับความรักจนไม่มองใคร อย่าเลือกปิดโอกาสตัวเองเพราะผู้ชายคนเดียวที่ (เคย) ผ่านเข้ามาในชีวิต ขอให้คุณเริ่มออกเดทอีกครั้งกับหนุ่มๆ ที่ถูกใจและเข้ามาในช่วงจังหวะที่คุณหายเศร้าแล้ว แรกๆ มันอาจะไม่เวิร์คเท่าไร แต่อย่างน้อยการได้เริ่มต้นมิตรภาพใหม่ๆ กับเพื่อนใหม่สักคนก็เป็นสิ่งที่ดีไม่ใช่หรือ เอาล่ะ ถึงเวลาที่ต้องดีดนิ้วแล้วก้าวไปข้างหน้าแบบไม่ต้องพะวงหลังแล้ว
และถ้าอยากให้เดทครั้งใหม่เต็มไปด้วยความมั่นใจขึ้นอีกหนึ่งสเต็ป เรามีตัวช่วยดีๆ ให้คุณเตรียมผิวหน้าให้พร้อมพกพาความสวยสตรองไปได้ในทุกที่ ด้วย IndiGlow® Seductive White Rejuvenating Moisturizer มอยเจอร์ไรเซอร์ในรูปแบบ All in one ที่รวมทุกการบำรุงไว้ในหนึ่งเดียว อุดมด้วยสารสกัดจากเห็ดสีฟ้า และสารสกัดอันทรงคุณค่าจากธรรมชาติอีก 5 ชนิด เนื้อครีมละเอียด เกลี่ยง่าย ซึมเร็ว ให้ผิวชุ่มชื้น ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย ล็อคความกระจ่างใส อ่อนโยนต่อทุกสภาพผิว พร้อมปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ด้วยค่า SPF 30 PA++++ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เท่านี้คุณก็รีสตาร์ทตัวเองให้สวยสตรอง พร้อมมูฟออนแบบสวยๆ ไม่ต้องแคร์ใครแล้ว ที่สำคัญอย่าลืมรักตัวเองให้มากๆ แล้วสิ่งดีๆ จะตามมาเอง ขอให้ผู้หญิงทุกคนโชคดีกับความรักครั้งใหม่ไปพร้อมๆ กันนะคะ.
