เปลี่ยนลุค สวยรับสิ่งใหม่ๆ กับ 5 เทรนด์แฟชั่น 2019 ทำก่อนสวยก่อน!
เปลี่ยนลุคใหม่ ให้สวยสะดุดตา เป็นไอเดียที่มองได้สองด้าน เพราะหมายถึงการเปลี่ยนไปสู่สิ่งที่ดีขึ้นโดยมีแรงบันดาลใจที่เกิดจากตัวเองล้วนๆ และอีกเหตุผลคือการเปลี่ยนเพื่อให้คนข้างๆ หันมาสนใจ ด้วยการก้าวข้ามผ่านความเป็นตัวเองที่ชินชามาสู่โลกใหม่ที่อาจไม่เคยรู้จัก แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดและแม้จะมีความกลัวฝังหัวอยู่มากแค่ไหน เราก็อยากให้คุณลองออกนอกกรอบดูบ้างเพื่อสร้างสีสันใหม่ๆ ให้ชีวิต และคิดซะว่าเพราะทุกวันคือพรมแดง ผู้หญิงต้องสวยทุกวันไม่มีวันหยุดพักร้อน!
การที่ผู้หญิงเราเปิดใจและหาวิธีเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยการเปลี่ยนลุค คือการแสดงออกว่ารักตัวเองอย่างหนึ่ง เหมือนที่ โซเฟีย ลอเรน อดีตนักแสดงชาวอิตาลี เคยกล่าวไว้ได้โดนใจเหลือเกินว่า “Nothing makes a woman more beautiful than the belief that she is beautiful” (ไม่มีอะไรที่ทำให้ผู้หญิงสวยได้มากกว่าการที่เธอเชื่อว่าตัวเองสวย) แต่ความเชื่ออย่างเดียวนั้นไม่พอ ต้องลุกขึ้นมาทำให้ตัวเองสวยด้วย ต่อจากนี้เป็น 5 ไอเดียเปลี่ยนลุคให้สวยดูดียิ่งกว่าเดิม แบบที่ไม่ต้องพึ่ง Personal Shopper มาไกด์ส่วนตัว ซึ่งบางคนอาจช่วยคุณไม่ได้มากไปกว่าการยึดสไตล์ของตัวเองและกล่อมให้คุณคล้อยตาม! เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาอัพเดตเทรนด์แฟชั่นที่เหล่าดีไซเนอร์เห็นพ้องต้องกันว่าซีซั่นหน้ามาแน่… กันดีกว่า รับรองว่าทำก่อน สวยก่อน พร้อมต้อนรับสิ่งดีๆ ที่จะพุ่งเข้ามาหาในปีใหม่นี้แบบทันใจแน่นอน
1.การครองบัลลังก์อย่างต่อเนื่องของผมสั้นประบ่า
ผู้หญิงเราแค่เปลี่ยนทรงผมก็สามารถเปลี่ยนลุคได้ง่ายๆ และชัดเจนที่สุด เทรนด์ทรงผมที่อินไม่เลิกในปี 2019 ไม่ต้องเดาให้เสียเวลาเลย เพราะทรงผมสั้นประบ่ายังครองบัลลังก์ต่อเนื่อง และดูท่าจะระบาดหนักมากจนยากที่จะโค่นลงได้ง่ายๆ เพราะเป็นทรงผมที่เรียกได้ว่าตัดเมื่อไรก็ไม่เคยเอาท์หรือหล่นหายไปจากเทรนด์เลย ด้วยความที่ไม่สั้นหรือยาวจนเกินไป อาจจะมีความก้ำกึ่งไปบ้างหากคุณเป็นสาวผมยาวที่ออกจะขี้รำคาญ แนะนำให้รวบซะเลยหากเจอแดดร้อนๆ
แต่ต้องบอกจริงๆ ว่าเทรนด์นี้เหมาะกับสาวผมยาวที่อยากเปลี่ยนลุคที่สุด นอกจากอแดปได้หลากหลายสไตล์ตั้งแต่ดัดลอนเบาๆ ที่ปลายก็ได้ลุคหวานละมุน ดัดลอนมาม่าก็ได้ลุคที่ดูฮิปและมีสไตล์ แถมตัดแล้วยังดูหน้าเด็กขึ้นอีก 10 ปี ลองกลั้นใจตัดดูสักทีคุณอาจจะเปลี่ยนเป็นสาวเปรี้ยวสุดมั่นขึ้นมาแบบทันทีทันใด แต่ถ้ายังใจไม่ถึงพอ การตัดหน้าม้าก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจในการสร้างความแตกต่างที่ดี
2.สีผมใหม่ก็เหมือนเกิดใหม่
ยังไม่พ้นเรื่องผม… ใครที่ยังไม่เคยทำสีผมเลยสักครั้งในชีวิต นี่เป็นอีกหนึ่งชาเลนช์ที่เราขอท้าให้คุณลองเพื่อแลกกับลุคใหม่ๆ เป็นของขวัญให้ตัวเอง วิธีนี้ใช้เปลี่ยนลุคได้ง่ายและส่วนใหญ่ได้ผลลัพธ์ที่ดีเกินคาดจนไม่อยากกลับไปหาสีผมเดิมๆ อีกเลย เทรนด์สีผมที่ยังแรงดีไม่มีตกตั้งแต่ปี 2018 ลากยาวมาถึง 2019 คือสีน้ำตาลและน้ำตาลอ่อนที่ใครก็ทำได้ แต่สีที่มาแรงคือสีม่วง สีเขียว สีพาสเทล และการไล่สีอย่างออมเบร (Ombre) บลอนด์น้ำตาล บลอนด์ช็อกโกแลต ก็ยังมาแรงไม่แพ้กัน ถ้ากลัวว่าทำไปแล้วจะไม่มั่นใจ ไม่เข้ากับหน้าหรือรู้สึกว่าขัดกับสีผิว เรามีไกด์สีผิวที่แมทช์กับสีผมมาบอกต่อเพื่อเป็นข้อมูลเล็กๆ ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนลุคตัวเอง
เริ่มจากสาวผิวโทนเหลืองผู้โชคดีเพราะเข้าได้ดีกับทุกสี ผิวโทนขาวเหมาะกับผมโทนสีแดงหรือสีเบอร์กันดี ผิวสีแทนห้ามย้อมผมสีอ่อนมากๆ เพราะจะทำให้คุณดูป่วย ผิวสีคล้ำเหมาะกับผมเฉดสีน้ำตาลอ่อน หรือโทนสีกลางจะขับใบหน้าให้สวยกว่าการย้อมผมโทนสีเข้ม แต่จะเปลี่ยนสีผมทั้งทีก็อยากให้ว้าวไปเลย เราสนับสนุนความคิดนี้เต็มที่ เพราะการลองทำอะไรแหวกแนวดูสักครั้งเพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำถือเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้ชีวิตที่ดี เพียงแต่อาจจะต้องเปลี่ยนเมคอัพให้แมทซ์กันด้วย
3.เมคอัพ Pastel eyes
สาวกบิวตี้เลิฟเวอร์ที่หนักหน่วงกับเมคอัพโทนเข้มขรึมมาทั้งปี ถึงเวลาต้องวางมือก็คราวนี้ เพราะจากคำบอกเล่าของ Lynsey Alexander เมคอัพอาร์ติสชื่อดังผู้รังสรรค์ลุคสวยเด่นบนรันเวย์ให้กับเหล่านางแบบแบรนด์ดัง Missoni บอกไว้ว่าอยากให้สาวๆ ดูเปรี้ยวและสตรอง ด้วยการลองเปลี่ยนลุคกับเทรนด์ใหม่ที่เน้นเมคอัพเบาๆ สื่อถึงความสดใสมีชีวิตชีวา แต่โดดเด่นที่ดวงตาแบบจัดเต็ม ขนมาได้ทั้งชิมเมอร์และกลิทเตอร์ให้เปลือกตาคู่สวยดูเป็นประกายโฉบเฉี่ยวทะลุมาจากอินเนอร์ และอย่าลืมเขียนคิ้วเป็นโครงเบาๆ ให้ดูเป็นธรรมชาติที่สุด ส่วนงานปากเน้นสีลิปสติกที่มาแรงในปี 2019 อาทิ สีโอลด์โรส ชมพู ส้ม และม่วงอ่อน มีข้อแม้นิดหน่อยว่าลิปสติกสีไหนที่มั่นใจว่าแล้วทาแล้วรู้สึกดี สีนั้นแหละเหมาะกับสาวๆ ที่สุดอย่าได้แคร์!
4.Come on แม่เสือสาว
การเปลี่ยนลุคการแต่งตัวก็เป็นอะไรที่น่าสนใจ และช่วยให้ปล่อยวางภาพลักษณ์เดิมๆ ได้ง่ายไม่แพ้กัน แม้จะยากไปสักนิดแต่อยากให้สาวๆ สนุกกับเทรนด์แฟชั่นร้อนๆ ส่งตรงจากรันเวย์ปี 2019 ที่แว่วว่ามาแรงเตรียมกระเป๋าฉีกได้เลยคือ Animal Print หรือลวดลายสิงสาราสัตว์ต่างๆ โดยเฉพาะลายเสือยังคงฮอตไม่เลิก เห็นทีสาวมินิมอลที่หลงใหลได้ปลื้มกับการแต่งตัวน้อยๆ แบบ Less is more หรือสาวหวานเรียบร้อยราวกับผ้าพับไว้ที่หมกมุ่นอยู่กับสีหวานๆ สดใสแบบคุณหนูมาทั้งปี ต้องลองเปลี่ยนลุคตัวเองให้ดูเซ็กซี่ เย้ายวนขึ้นอีกนิดด้วยกระโปรงลายเสือ แมทซ์กับเสื้อยืดในวันสบายๆ สวมคาร์ดิแกนทับสักตัวก็ไปทำงานต่อได้แล้ว หรือจะเลือกดีไซน์ที่ใส่ง่ายด้วยเชิ้ตเดรสพอดีตัว หรือเดรสผ้าพลิ้วพิมพ์ลายเสือก็จบลุคได้เลยในชิ้นเดียว
5.รองเท้า… ดูเหมือนไม่ใช่แต่มันใช่ในที่สุด
สาวๆ ออฟฟิศที่ดูเหมือนว่าจะไปได้ดีกับรองเท้าหนัง ไล่เรียงมาตั้งแต่แฟลตส้นแบน ส้นเตารีด ไปจนถึงส้นเข็มที่เดินแล้วทั้งปวดทั้งเมื่อยแทบทั้งวันเพื่อแลกกับลุคทางการที่น่าเชื่อถือ ถ้าออฟฟิศไม่มีกฎห้ามอะไรทำนองนี้ เราขอเรียกร้องให้สาวๆ ที่อยากเปลี่ยนลุคปีใหม่นี้เลิกทรมานตัวเอง ลุกขึ้นมาปฏิวัติด้วยการหยิบเพื่อนสนิทเบอร์หนึ่งอย่างรองเท้าหนังใส่ตู้ปิดตายสักพัก แล้วมองหาสนีคเกอร์คู่โปรดมาช่วยอัพลุค เปลี่ยนคาแรคเตอร์ให้ดูทะมัดทะแมงและสตรีทขึ้นได้ง่ายๆ ในชั่วพริบตา การันตีได้เลยว่าเทรนด์นี้ยังอยู่ไปอีกยาวๆ เป็นแฟนพันธุ์แท้แบรนด์ไหนก็จัดได้เลยไม่ต้องรอ
แต่ถ้าอยากเพิ่มดีกรีให้การเปลี่ยนลุคครั้งนี้เพอร์เฟ็กต์ยิ่งขึ้น ขอแนะนำไอเท็มเด็ดที่ช่วยให้ผิวหน้าเนียนใส ขาวออร่าอย่างเป็นธรรมชาติต้อนรับปีใหม่ก่อนใคร ด้วย IndiGlow® Seductive White Rejuvenating Moisturizer ในรูปแบบ All in one มอยเจอร์ไรเซอร์ที่รวมทุกการบำรุงไว้ในหนึ่งเดียว อุดมด้วยสารสกัดจากเห็ดสีฟ้า และสารสกัดอันทรงคุณค่าจากธรรมชาติอีก 5 ชนิด โดยเฉพาะสาร Naringin จากส้มโอทับทิมสยาม ที่คงไว้ซึ่งการออกฤทธิ์ antioxidants แก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส ให้ผิวชุ่มชื้น ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย
ล็อคความกระจ่างใส พร้อมปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ด้วยค่า SPF 30 PA++++ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื้อครีมละเอียด เกลี่ยง่าย ซึมเร็ว อ่อนโยนต่อทุกสภาพผิวแม้ผิวแพ้ง่าย ปราศจาก Paraben และแอลกอฮอล์