ผิวขาวใส ไม่ว่าใครก็มีได้ แค่ต้องหยุด!… พฤติกรรมเหล่านี้
ผิวขาวใส เปล่งประกาย ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัยก็ยังคงเป็นผิวที่ผู้หญิงต้องการ จึงไม่แปลกที่หลายคนต่างหาวิธีทำให้ผิวขาวโดยลืมนึกถึงความปลอดภัย ทั้งการพึ่งอาหารเสริมหรือลงทุนฉีดกลูตาไธโอนที่เสี่ยงต่ออันตราย เพราะหวังว่าจะช่วยให้เป็นเจ้าของผิวขาวใสเร็วทันใจ แต่รู้หรือไม่ว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ จะดีกว่าไหมถ้าลองทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้ผิวหน้าไม่ขาวใสออร่าอย่างที่ควรจะเป็น?
จริงอยู่ที่แสงแดด อากาศ และมลภาวะเป็นพิษรอบตัวที่ต้องเจอทุกวันเป็นศัตรูที่จ้องทำร้ายผิวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สิ่งที่กระตุ้นให้ผิวโทรม ไม่กระจ่างใส เกิดปัญหาผิวแห้ง หน้าหมองคล้ำซ้ำๆ จนเข้าขั้นวิกฤตินั้นส่วนหนึ่งมีที่มาจากพฤติกรรมส่วนตัวของเราที่ทำจนเคยชินโดยไม่รู้ตัวนั่นเอง มาเช็คดูหน่อยไหมว่าตรงกับลิสต์ไหนบ้าง แล้วอย่ารอช้ารีบขอกำลังเสริมด่วนๆ ตามนี้เลย
5 พฤติกรรมเคยชินที่ต้องหยุด! ถ้าไม่อยากผิวพังไปมากกว่านี้
1.ทำงานหนักจนเครียดสะสม ติดโซเชียล ดูซีรีส์จนนอนเช้า!
ผิวขาวใสจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้ายังใช้ชีวิตผูกติดกับโลกโซเชียล จ้องจอนอนดูซีรีส์จนหามรุ่งหามค่ำ จนสุดท้ายตื่นไปทำงานไม่ไหว เมื่อความเหนื่อยสะสมมาเจอกับงานหนักจึงเกิดความเครียด และเมื่อความเครียดมาเยือนร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนที่ชื่อคอร์ติซอล (Cortisol) ออกมา เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายอยู่ในสภาพตื่นตัวตลอดเวลา กระตุ้นให้ต่อมเหงื่อทำงานมากขึ้นส่งผลให้เหงื่อออกมากขึ้น ผิวจึงแห้งเพราะร่างกายสูญเสียน้ำอย่างรวดเร็ว
วิธีแก้ > เมื่อรู้ตัวว่านอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ หนึ่งในทางลัดที่ช่วยให้ผิวได้ฟื้นฟูอย่างเร่งด่วนคือหาเวลางีบหลับช่วงพักกลางวันประมาณ 10-20 นาที หลังจากนั้นค่อยๆ ปรับเปลี่ยนเวลานอนให้เร็วขึ้น โดยนอนหลับให้ได้ 8 ชั่วโมง วางเรื่องเครียดไว้ที่ทำงาน เลิกดูซีรีส์ ปิดโซเชียล ถ้านอนหลับยากอาจใช้กลิ่นหอมเป็นตัวนำทางช่วยให้หลับง่ายและผ่อนคลายมากขึ้น เท่านี้ร่างกายก็จะมีเวลาได้สร้างเซลล์ผิวใหม่เพื่อทดแทนเซลล์เก่า ช่วยให้ผิวค่อยๆ เปล่งปลั่งมากขึ้นจากภายใน
2.ล้างหน้าไม่สะอาด ปิดเปลือกตาพร้อมเมคอัพ
ต้นเหตุหนึ่งที่ฉุดรั้งผิวขาวใสและเชื่อว่าสาวๆ ออฟฟิศเกิน 80 เปอร์เซ็นต์นั้นทำประจำคือ นอกจากทำงานหนักจนเครียด พักผ่อนไม่พอแล้ว พอหัวถึงหมอนก็ปิดเปลือกตาไปพร้อมเมคอัพเหนอะๆ รู้หรือเปล่าว่าการยอมให้เครื่องสำอางเกาะอยู่บนหน้ามาทั้งวันจนลากยาวไปถึงเช้าของอีกวัน นอกจากทำให้หน้ามัน รูขุมขนอุดตันจนหน้าหมอง ยังทำให้ผิวไม่ได้หายใจและขาดการฟื้นฟูในช่วงที่หลับอีกด้วย
วิธีแก้ > ต่อให้ทำงานหนักหรือเหนื่อยแค่ไหนสิ่งที่ห้ามละเลยคือ การทำความสะอาดผิวหน้าก่อนเข้านอน เริ่มต้นจากการใช้คลีนซิ่งเช็ดเครื่องสำอางออกให้หมด ควรเป็นสูตรที่ไม่ดึงความชุ่มชื้นออกจากผิว หรือมีฟองเยอะจนไปรบกวนค่า pH ของผิว ตามด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง โดยนวดวนตามจุดต่างๆ ของใบหน้าจะช่วยให้รู้สึกเฟรชและสะอาดมากขึ้น สุดท้ายถ้ายังไม่ชัวร์เรื่องความคลีนแนะนำให้ปิดท้ายด้วยโทนเนอร์เช็คผิวอีกครั้ง และอย่าลืมทาไนท์ครีมก่อนนอนเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิวหน้าตลอดคืน ทำเป็นประจำทุกวันผิวขาวใสก็จะค่อยๆ กลับมา
3.ทากันแดดตอนออกแดดเท่านั้น
ยังคงเป็นเรื่องเข้าใจผิดจนเกิดพฤติกรรมความเคยชินอยู่เสมอ ว่าการทาครีมกันแดดต้องทาเฉพาะออกแดดเท่านั้น วันไหนอยู่ในที่ร่มหรือไม่ต้องออกแดดจึงเกิดการละเลยไปดื้อๆ แต่ในความเป็นจริงแม้อยู่ในที่ร่มรังสียูวีก็สามารถทะลุทะลวงเข้ามาทำร้ายผิวสวยๆ จนหมองคล้ำและเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ โดยเฉพาะ UVB ดังนั้นครีมกันแดดจึงเป็นไอเท็มสำคัญที่ขาดไม่ได้ไม่ว่าจะออกแดดหรือไม่ก็ตาม
วิธีแก้ > ไม่ว่าจะออกแดดหรืออยู่ในที่ร่มก็ไม่มีข้อแม้ ควรทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV และมลภาวะต่างๆ โดยเลือกที่มีค่า SPF และ PA ที่เหมาะสม และหากต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานานควรทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง เพื่อประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากแสงแดดและเพื่อผลลัพธ์ผิวขาวใสอย่างเป็นธรรมชาติ IndiGlow® Seductive White Rejuvenating Moisturizer เป็นคำตอบที่ดีที่สุด
ครีมบำรุงผิวหน้าในรูปแบบ All in one มอยเจอร์ไรเซอร์ พร้อมปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ด้วยค่า SPF 30 PA++++ อุดมด้วยสารสกัดจากเห็ดสีฟ้า และสารสกัดอันทรงคุณค่าจากธรรมชาติอีก 5 ชนิด ที่มาพร้อม IndiGlow White Loc Complex™ ช่วยล็อกความขาวกระจ่างใสยาวนานตลอดวัน ลดเลือนริ้วรอย อ่อนโยนต่อทุกสภาพผิว ให้ผิวสวย สว่างใส สะกดใจได้ยาวนาน
4.ไม่เคยออกกำลังกายหรือสครับผิว
ยุคนี้การมี Work Life Balance ที่ดีนั้นจำเป็นแค่ไหนใครๆ ก็รู้ พฤติกรรมทำงานหนักจนกลายเป็นข้ออ้างทำให้ไม่มีเวลาออกกำลังกาย หรือไม่มีแม้แต่เวลาสครับผิวหน้าให้ตัวเองไม่ควรเกิดขึ้น เพราะทั้งหมดนี้บั่นทอนให้ผิวขาวใสอยู่ไกลออกไปเรื่อยๆ การไม่ออกกำลังกายเท่ากับตั้งใจให้ร่างกายกักเก็บของเสียไว้ตั้งแต่หัวจรดเท้า เพราะเหงื่อไม่เคยได้ถูกขับออกจากตัว การไม่สครับผิวหน้าทำให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วทับถมกันจนรูขุมขนบนใบหน้าอุดตันจนหาทางออกไม่ได้ ไม่แปลกที่ผิวหน้าจะหมองคล้ำลงเรื่อยๆ จนน่าใจหาย
วิธีแก้ > หาเวลาออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 15 นาที หรือถ้าไม่มีเวลาจริงๆ ควรหาเวลาว่างในวันหยุดอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที อาจเริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการวอล์มอัพ 5 นาที จากนั้นวิ่งสลับเดินเบาๆ เพื่อช่วยขับเหงื่อและสิ่งสกปรกออกจากร่างกายทางรูขุมขน เสมือนเป็นการดีท็อกซ์ผิว ช่วยให้ผิวพรรณค่อยๆ กระจ่างใสจากภายใน และควรหมั่นสครับผิวหน้าเป็นประจำอย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 ครั้ง เพื่อกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพแล้วให้หลุดออก เปิดทางให้เซลล์ผิวใหม่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นมาทดแทน แค่นี้ผิวขาวใสก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม
5.ดื่มหนัก เป็นสาวปาร์ตี้เกิร์ล
เราเข้าใจดีกว่ากลิ่นหอมๆ สีสันสวยๆ และรสชาติหวานๆของคอกเทลชื่อเก๋อย่าง Mojito หรือ Caipirinha นั้นโดนใจสาวๆ แค่ไหน การเป็นสาวปาร์ตี้เกิร์ลไม่ใช่เรื่องผิดแต่คงไม่ดีแน่ถ้าดื่มหนักเกินไป เพราะนอกจากจะเสียอิมเมจ ทำให้ตับทำงานแย่ลง ส่งผลให้ผิวหมองคล้ำและเกิดริ้วรอยง่ายแล้ว ยังมีความจริงที่ซ่อนอยู่ภายใต้รสชาติหวานๆ ที่ชวนหลงใหลนั่นคือแป้งและน้ำตาล สองสิ่งนี้ทำให้ผิวเกิดการอักเสบได้ง่าย แถมยังแท็คทีมมากับ Congeners ส่วนผสมหนึ่งที่ช่วยให้รสชาติดีและหอมหวานขึ้น แต่ทำให้ปวดหัว เมาค้าง และเข้าไปขัดขวางการทำงานของฮอร์โมน Vasopressin (มีหน้าที่จัดการระดับน้ำในเซลล์ร่างกายให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม) พอดื่มมากๆ ระดับ Congeners ในร่างกายสูง จึงทำให้ผิวขาดน้ำได้
วิธีแก้ > กฏ 1 ข้อที่ควรทำให้ได้ถ้าอยากทวงคืนผิวขาวใสคือการงดปาร์ตี้ หันมาดื่มน้ำเปล่าอุณหภูมิห้องให้ได้วันละ 8 แก้ว ลองหาโยเกิร์ต นมเปรี้ยวสูตรไขมันต่ำหรือน้ำพรุนสกัดดื่มก่อนนอน จะช่วยให้มีการขับถ่ายที่ดีในยามเช้าและเป็นการขับของเสียออกจากร่างกาย ส่งผลให้ผิวหน้าและผิวกายดูเปล่งปลั่งสดชื่นขึ้น
นอกจากนี้ ควรเสิร์ฟอาหารผิวเพื่อบำรุงจากภายใน อาทิ ผักผลไม้ที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) เช่น ทับทิม ชาเขียว ส้มโอ อโวคาโด แครอท ฯลฯ และเสริมด้วยอาหารที่อัดแน่นไปด้วยวิตามินซี เช่น ผลไม้ในตระกูลส้มหรือเบอร์รี นอกจากเสริมภูมิต้านทาน ชะลอริ้วรอย ยังช่วยสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินเพื่อผลลัพธ์ผิวเต่งตึง ผิวขาวใส เปล่งประกายได้ดั่งใจ
จะเห็นได้ว่าพฤติกรรมเคยชินทั้ง 5 ข้อนี้ เชื่อมโยงกันเป็นลูกโซ่และส่งผลกระทบต่อผิวระยะยาว ดังนั้น สาวๆ ควรเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตั้งแต่วันนี้ มีวินัยกับตัวเองมากๆ เพื่อเป็นเจ้าของผิวขาวใสได้อย่างยั่งยืน