“ดีท็อกผิวหน้า” ฟื้นฟูผิวคล้ำแดด ให้กลับมาสวย ขาวใสจนออร่าจับ
ดีท็อกผิวหน้า หนึ่งในวิธีทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึก เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกที่อุดตันอยู่ในรูขุมขน และสารพิษที่ตกค้างบนผิวหน้า ตัวการที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส และดูแก่กว่าวัย
เพราะแต่ละวันผิวหน้าต้องเจอทั้งแดด ฝุ่นและมลพิษต่างๆ ที่พร้อมเกาะติดและแทรกซึมเข้าอุดตันตามรูขุมขน จนหน้าหมองคล้ำเหมือนคนโดนของ ไม่ว่าจะใช้ครีมบำรุงผิวหน้าอะไรก็ไม่ดีขึ้น โดยเฉพาะหากสาวๆ เป็นนักกิจกรรมตัวยง ชอบแพ็คกระเป๋าไปนอนอาบแดดที่ทะเล เล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีมกลางแจ้งอยู่บ่อยๆ โดยไม่ป้องกันให้ดี คอนเฟิร์มได้เลยว่าผิวจะแดง ไหม้แดดแน่นอน ถ้าไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกต้องบอกเลยว่าถ้าเป็นแล้วฟื้นยากสุดๆ ถ้าอยากรู้ว่า “ผิวไหม้แดด” ควรดูแลอย่างไร สามารถเข้าไปอ่านเพิ่มได้เลย
และอีกหนึ่งปัญหาที่ต้องพบเจอหลังผิวหน้าไหม้แดดคืออาการผิวคล้ำ ที่เกาะติดเป็นเงาแบบไปไหนไปกัน เมื่อปัญหาเลยเถิดมาถึงจุดนี้ วิธีแก้ที่ดีที่สุดที่สาวๆ ควรทำอย่างยิ่งนั่นคือ “การดีท็อกผิวหน้า” อย่างเร่งด่วน
ดีท็อกผิวหน้าคืออะไร?
ที่ผ่านมาเราอาจเคยได้ยินแต่การดีท็อกร่างกายด้วยวิธีที่หลากหลาย เพื่อล้างหรือขับไล่ของเสียออกจากร่างกาย ซึ่งเป็นไปเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องระบบขับถ่าย… การดีท็อกผิวหน้าก็ไม่ต่างกัน เพราะหมายถึงการล้างหรือขจัดสารพิษออกจากผิว ไม่ให้สะสมหรือตกค้างอยู่ในผิวหน้า เพราะหากสาวๆ ใจดีปล่อยให้สารพิษหรือสิ่งสกปรกหมักหมมอยู่ต่อไป นอกจากผิวจะหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอแล้ว อาจต่อยอดให้ผิวหน้าเกิดอาการต่อต้าน ไม่ยอมเปิดทางให้สารบำรุงต่างๆ ซึมเข้าสู่ผิวหน้า ต่อให้ทาครีมบำรุงผิวที่มีราคาสูงหรือสรรพคุณดีขนาดไหน ก็ไม่สามารถฟื้นฟูให้ผิวดีขึ้นได้ เราจึงสรรหาวิธีให้สาวๆ สามารถจัดการดีท็อกผิวหน้า เพื่อกระตุ้นผิวให้เตรียมพร้อมรับการบำรุงได้ง่ายๆ ดังนี้
1.Detoxifying
ในการดีท็อกผิวหน้าเพื่อขจัดสารพิษ วิธีที่ดีที่สุดคือการทำความสะอาดผิวหน้าทุกวัน ตามแบบฉบับบิวตี้รูทีนของสาวๆ ระดับบิวตี้บล็อกเกอร์ทั้งหลายที่ได้ผลมาแล้วนักต่อนัก อันดับแรกของวิธีล้างหน้าที่ถูกต้องคือการล้างเครื่องสำอางด้วยคลีนซิ่ง ก่อนจะล้างด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าประเภท detoxifying นอกจากช่วยทำความสะอาดได้ล้ำลึกมากกว่า ยังช่วยในการดีท็อกผิวหน้าอีกด้วย แต่สำหรับสาวผิวแห้งขอแนะนำให้ใช้แค่ 2 – 3 ครั้งต่อสัปดาห์ก็พอแล้ว
2.นวดกระตุ้น ปลุกให้ตื่น
คือการกระตุ้นต่อมน้ำเหลืองให้ขับของเสียออกมาได้ดีขึ้น หรือกลับมาทำงานได้ปกติเช่นเดิม โดยขั้นแรกเริ่มจากใช้มือไขว้กันด้านหน้า แล้วใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางไปกดคลึงเบาๆ เป็นครึ่งวงกลมที่จุดเหนือกระดูกไหปลาร้า 5 ครั้ง เพื่อกระตุ้นต่อมน้ำเหลืองบริเวณนั้น จากนั้นวางมือตามกรอบหน้านวดวนเบาๆ เข้าหาใบหน้า 5 ครั้ง เมื่อครบก็ขยับมาที่บริเวณหน้าแก้ม นวดวนเข้าหาใบหน้าอีก 5 ครั้ง
จากนั้นใช้นิ้วนางนวดบริเวณใต้ตา 3 จุด คือ หัวตา กลางตาและหางตา คลึงเบาๆ 5 ครั้ง ในแต่ละจุด แล้วจึงใช้นิ้วนางรูดเบาๆ จากหัวตาไปหางตา 3 ครั้ง ปิดท้ายที่หน้าผากกับขมับ วางมือแล้วคลึงเบาๆ เป็นครึ่งวงกลม 5 ครั้ง และจบที่การไขว้มือ สองนิ้วชี้และนิ้วกลางคลึงเบาๆ เป็นครึ่งวงกลมที่จุดเหนือไหปลาร้า (ทำเหมือนท่าแรกเพื่อปิดท้าย) วิธีนี้แนะนำว่าให้ทำอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง เพื่อช่วยผ่อนคลายและฟื้นฟูผิวให้ได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่
3.พึ่งตัวช่วยดูดซับ
การมาส์กหน้าเป็นอีกวิธีที่ได้ผลลัพธ์ดีไม่แพ้กัน วัตถุดิบเบสิกง่ายๆ อย่างไข่ไก่ ที่หาได้ตามก้นครัวของทุกบ้านก็สามารถนำมาดีท็อกผิวหน้าได้ แค่นำไข่ขาวแยกออกจากไข่แดง แล้วนำมาทาบนหน้า รอให้รู้สึกตึงๆ ผิวจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น แล้วตามด้วยน้ำเย็นเพื่อปิดรูขุมขน หรือจะผสมน้ำมะนาวลงไปในไข่ขาวเล็กน้อย ก็จะช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นได้
ชา คืออีกหนึ่งวัตถุดิบชั้นดีที่สามารถดีท็อกผิวได้ดี ด้วยกลิ่นหอมชวนผ่อนคลายและอัดแน่นด้วยคุณค่าที่หลากหลาย อย่างในชาดำที่มีทั้งสารต้านอนุมูลอิสระ แมคนีเซียม โพแทสเซียมและซิงก์ ที่สามารถช่วยให้ผิวหน้าดูอ่อนกว่าวัย บรรเทาผิวไหม้แดดได้ รวมทั้งเป็นการดีท็อกให้ผิวฟื้นฟูได้ด้วย เพียงนำถุงชาดำไปแช่ในน้ำเดือด 10 นาที แล้วเติมใบมินต์ลงไป รอจนเย็นแล้วกรองเอาแต่น้ำ ใช้ผ้าหรือสำลีชุบแล้วเช็ดให้ทั่วใบหน้า ก็สามารถช่วยฟื้นฟูผิวได้ในระดับหนึ่ง
หรือถ้าชอบกลิ่นหอมอ่อนๆ ของชาเขียวมัจฉะก็สามารถทดแทนกันได้ เนื่องจากคลอโรฟิลล์ที่อยู่ในตัวชาสามารถช่วยดูดซับสารพิษในผิวได้ แค่นำชาเขียวมัจฉะผสมกับน้ำมันหอมระเหยอย่างตะไคร้หรือกุหลาบ จนได้เนื้อครีมที่ข้นกำลังดีแล้วจัดการพอกหน้า แค่นี้ก็ช่วยดีท็อกผิวหน้าให้แข็งแรงพร้อมรับการดูแลและบำรุงได้แล้ว
4.Dry Brushing
หรือการนวดแบบแห้ง อีกหนึ่งรูปแบบในการดูแลผิวที่ผสมผสานระหว่างการนวดดีท็อกผิวหน้ากับการขัดผิวเข้าด้วยกัน วิธีนี้สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่มีแปรงที่ทำมาจากขนธรรมชาติ ซึ่งแปรงลักษณะนี้จะคล้ายๆ กับแปรงแต่งหน้าของสาวๆ ที่ใช้อยู่เป็นประจำทุกวัน พร้อมแล้วก็ลงมือตามสเต็ปนี้ได้เลย
> เริ่มจากบริเวณกลางคาง ลากแปรงขึ้นไปตามกรอบหน้าจนถึงกกหู แล้วลากลงมาที่คอจรดกระดูกไหลปลาร้า ทำทั้งสองข้าง ข้างละ 3 – 4 ครั้ง
> ถัดมาคือตำแหน่งของปีกจมูก โดยลากยาวไปตามแนวหน้าแก้มจนถึงกกหูทั้งสองข้าง ข้างละ 3 – 4 ครั้ง
> มาต่อกันที่บริเวณสันจมูก ลากผ่านใต้ตาไปจนถึงขมับ แล้วจึงลากลงตามกรอบหน้าจรดที่กกหู ทำซ้ำอีก 3 – 4 ครั้ง ทั้งสองข้าง
> จากนั้นคือจุดกึ่งกลางของใบหน้า หรือระหว่างหัวคิ้ว ให้ลากแปรงไปตามแนวเหนือคิ้วไปจนจบที่ขมับ
> และสุดท้ายที่กลางหน้าผาก ลากแปรงลงมาตามไรผม ผ่านกกหูลงมาที่คอจนถึงกระดูกไหปลาร้า
เท่านี้ก็เป็นอันจบการนวดแบบแห้ง เพื่อดีท็อกผิวหน้าให้คืนความกระจ่างใสและพร้อมรับการบำรุงแล้ว แต่ขอแนะนำเพิ่มเติมสักนิดว่าควรดื่มน้ำเปล่าสักแก้วเป็นการปิดท้าย เพื่อให้น้ำเป็นตัวช่วยขับสารพิษหลังการดีท็อกออกมาได้ดียิ่งขึ้นและเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วย
5.Infused water
อีกหนึ่งการดีท็อกผิวหน้าให้กระจ่างใสมากขึ้น คงต้องเริ่มจากภายในด้วย ซึ่งวิธีการง่ายๆ คือการทานผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีนั่นเอง แต่สำหรับใครที่ไม่อยากทานผักผลไม้สดๆ แล้วล่ะก็ เรามีอีกทางเลือกมาแนะนำสาวๆ คือ Infused water หรือน้ำหมักจากผักและผลไม้เพื่อสุขภาพ วิธีการทำก็ไม่ยาก เพียงแค่เลือกผลไม้ที่สาวๆ ชอบ หมักทิ้งไว้กับน้ำแร่ อย่างน้อย 1 ชั่วโมง ก็สามารถนำมาดื่มได้แล้ว และน้ำหมักเพื่อสุขภาพนี้ แม้แต่อดีตนางฟ้าวิคตอเรีย ซีเคร็ท อย่างสาวมิแรนด้า เคอร์ ก็ยังแนะนำว่าดีต่อผิวเช่นกัน เราเลยไม่รอช้า จัดสูตรน้ำหมักเพื่อดีท็อกผิวหน้ากระจ่างใสให้สาวๆ ได้ลองไปทำตามกัน
สูตรที่ 1 รวมพลวิตามินซี
ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าต้องเป็นผลไม้ที่อุดมด้วยวิตามินซีแบบจัดเต็ม ส่วนผสมหลักจึงพาเหรดกันมาทั้งเลมอน มะนาว ส้ม เบรคความเปรี้ยวเล็กน้อยด้วยสตรอว์เบอร์รี และใบสะระแหน่ปริมาณตามใจชอบ จากนั้นหั่นทั้งหมดเป็นชิ้นบางๆ เรียงใส่เหยือกเติมน้ำแร่ หมักทิ้งไว้ 1 – 2 ชั่วโมง ก็สามารถนำออกมาดื่มได้แล้ว สูตรนี้จะได้กลิ่นหอมเปรี้ยวๆ รู้สึกเฟรชจากเลมอนและมะนาว พ่วงความหวานด้วยสตรอว์เบอร์รี ทำให้กินง่ายขึ้น
สูตรที่ 2 หวานซ่อนเปรี้ยว
เป็นความหอมหวานของทับทิมที่ผสมผสานความเปรี้ยวอมหวานของส้มได้อย่างลงตัว เพียงนำทับทิมแกะเมล็ดออก ส้มแกะเป็นกลีบ องุ่นผ่าครึ่ง ฝรั่งหั่นชิ้นเล็ก และใบสะระแหน่ใส่ลงแก้ว แล้วใช้ส้อมกดลงเล็กน้อยให้พอแตก เติมน้ำแร่ ปิดฝาหมักทิ้งไว้ 2 ชั่วโมง ก็สามารถนำออกมาดื่มได้แล้ว สูตรนี้นอกจากช่วยดีท็อกผิวหน้าได้ผลดีแล้ว ในทับทิมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่สูง จึงช่วยชะลอความแก่และลดอาการอักเสบต่างๆ ได้ดีอีกด้วย
สูตรที่ 3 มิกซ์เบอร์รี
ขึ้นชื่อว่าตระกูลเบอร์รีย่อมได้วิตามินซีที่ดีต่อผิวแน่ๆ เพียงแค่เตรียมราสเบอร์รี บลูเบอร์รี สตรอว์เบอร์รีฝานชิ้นบางและใบมินต์ใส่ลงในแก้วหรือเหยือก กดพอให้น้ำในผลเบอร์รีต่างๆ แตกออกมา เติมน้ำแร่แล้วปิดฝาหมักทิ้งไว้ 2 ชั่วโมง ก็จะได้น้ำหมักมิกซ์เบอร์รีไว้ดีท็อกผิวหน้าแล้ว
นอกจากน้ำหมักชนิดนี้จะช่วยให้รู้สึกสดชื่นจากวิตามินและเกลือแร่ ยังช่วยปรับระบบการขับถ่ายให้ดีขึ้น แถมผิวยังได้รับสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ช่วยให้ผิวเต่งตึง หน้าเด็กอีกด้วย
เพียงแค่นี้สาวๆ ก็สามารถดีท็อกผิวหน้าได้ง่ายๆ ทำได้เองที่บ้าน ไม่ต้องง้อร้าน แถมประหยัดเงินในกระเป๋าได้ด้วย เป็นการเรียกคืนผิวคล้ำแดดให้กลับมาสวยออร่า เนียนใส อ่อนวัยได้ไม่ยาก
และเพื่อความขาวกระจ่างใสควบคู่ไปพร้อมกับการปกป้องผิว IndiGlow® Seductive White Rejuvenating Moisturizer ครีมบำรุงผิวหน้าที่ให้มากกว่าการเติมและกักเก็บน้ำให้ผิว พร้อมช่วยล็อคความขาวให้กับผิว ลดเลือนริ้วรอย ปกปิดรูขุมขนทำให้ผิวเนียน และปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ด้วยค่า SPF 30 PA++++ ควบคุมการสร้างเม็ดสีในผิว ให้ผิวสวย เนียนสว่างใส สะกดใจได้ยาวนาน กับนวัตกรรม IndiGlow White Loc Complex™ ประกอบไปด้วยสารสกัดอันทรงคุณค่าจากธรรมชาติทั้ง 6 ชนิด อ่อนโยนต่อทุกสภาพผิว แม้ผิวแพ้ง่าย ปราศจาก Paraben และน้ำหอม ตอบโจทย์ได้ครบทุกปัญหาผิวอย่างแท้จริง
