“ความรัก” ไม่มีวันหมดโปร มาดูวิธีชาร์จแบตรักให้ฉ่ำใจ ต่อให้รักใกล้พังก็รอด!
“ความรัก” ทำให้โลกเป็นสีชมพู หลายคนอาจเคยสงสัยและตั้งคำถามกับประโยคนี้ แต่ไม่ว่าจะมีสีอะไรล้วนขึ้นอยู่กับผู้ที่ถูกรักและให้ความรักเป็นคนกำหนด เพราะกว่าที่คน 2 คนจะโคจรมาเจอกันและพบรักกันได้นั้นก็ยากพออยู่แล้ว แต่การถนอมความรักที่มีต่อกันให้ยั่งยืนยาวนานนั้น ยากยิ่งกว่า…
หากเปรียบความรักกับจังหวะดนตรี อาจมีทั้งความนุ่มนวล ละเมียดละไมแบบ Soul ใสๆ ชวนฝัน ไม่มีพิษมีภัยแบบ Pop แข็งแรง ดุดัน เกรี้ยวกราด พร้อมชนเหมือน Heavy Metal แล้ว Groove ของคุณล่ะเป็นแบบไหน? โดยธรรมชาติแล้วจังหวะของความรักนั้นอาจขึ้นๆ ลงๆ ปรับเปลี่ยนไปตามเงื่อนไขของเวลาที่เป็นตัวแปร และเมื่อรักนั้นเดินทางมาถึงช่วงหมดโปร อะไรๆ ที่เคยหวานก็เริ่มจืดชืดไปจนถึงจืดจาง เหมือนน้ำตาลที่แม้อยู่ใกล้มดความหวานก็ไม่อาจดึงดูดได้อีกต่อไป
ถ้าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่อยากให้ชีวิตคู่อบอวลไปด้วยความรัก ความสุข นั้นมีเคล็ดลับมากมาย แต่ถ้าอีกฝ่ายเริ่มส่งสัญญาณเตือนกลายๆ ถึงอาการหมดใจ รู้ไว้เลยว่าคุณต้องลงมือทำอะไรสักอย่างแล้ว อยากให้ลองมาดูทริคชาร์จแบตรักที่กำลังริบหรี่ให้กลับมากระปรี้กระเปร่าและกลมกล่อมยิ่งขึ้น และก่อนจะเชื่อเราทั้งหมดขอให้จงเชื่อมั่นในสัญชาตญาณของตัวเองที่มีต่อคนรัก เรียกพลังแฝงที่หลับใหลออกมาใช้ เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายและจิตใจของเขากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
1.ทำเหมือนว่าเพิ่งคบกันใหม่ๆ
เพราะผู้หญิงร้อยทั้งร้อยหลังจากมอบหัวใจให้ผู้ชายไปแล้ว มักไม่ดูแลตัวเองให้ดีเหมือนที่เคย บางคนทำตัวเป็นของตายเพราะคิดว่าผู้ชายรักแล้วต้องรับให้ได้ในทุกสถานะ ความคิดนี้ผิดถนัด เอาเป็นว่าเคยหัวใจเต้นแรงขนาดไหน ประหม่าแค่ไหนวันที่สบตากันครั้งแรก เคยจูงมือกันไม่เคยได้ห่าง แต่งหน้าแต่งตัวดูแลตัวเองดีขนาดไหน ยังจำโมเม้นต์ที่เรียกว่าอาการตกหลุมรักได้ไหม ขอให้กลับไปทำแบบนั้นอีกครั้ง ไม่ใช่แค่เพื่อเขานะ แต่มันคือการกลับไปให้ความสำคัญกับตัวเองด้วย จริงไหม?
2.หมั่นบอกรัก
ที่ผ่านมาผู้หญิงอาจคิดว่าการมีเซ็กซ์นั้นสามารถกุมหัวใจผู้ชายไว้ได้ อย่าคิดว่ายิ่งมีเซ็กซ์ความสัมพันธ์จะยิ่งแนบแน่น เพราะตรรกะนี้ไม่จริงเสมอไป แต่สิ่งที่คู่รักที่คบกันมานานจนเริ่มจะหมดโปรมักจะขาดหายคือการบอกรัก เพราะคิดว่าไม่จำเป็น จำได้ไหมว่าคุณบอกรักกันครั้งสุดท้ายเมื่อไร ถ้าจำไม่ได้ก็เริ่มตั้งแต่วันนี้เลย หมั่นบอกรักกันบ่อยๆ ให้กำลังใจและอยู่เคียงข้างกันตลอด ง่ายๆ แค่นี้อายุรักก็จะไม่สั้นลงอย่างที่คิด เพราะโดยสัญชาตญาณของผู้ชายทั้งโลก พฤติกรรมการแสดงออกนั้นเท่ากับศูนย์ เคยจ้ำจี้จ้ำไขอยากให้เขาบอกแค่ไหนวันนี้ไม่ต้องไปรอ เพราะเราขอให้คุณลุกขึ้นมาทำมันเองซะเลย
3.คืนพื้นที่ส่วนตัวให้กันและกัน
คนรักกันไม่เห็นต้องตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋ตลอดเวลา เพราะบางครั้งความใกล้ชิดที่มากเกินไปก็สามารถทำร้ายความสัมพันธ์ได้เหมือนกัน ดังนั้น ควรปล่อยให้คนรักของคุณมีพื้นที่ส่วนตัวบ้าง เช่น กลับไปกินข้าวกับครอบครัว ออกไปแฮงก์เอาท์กับเพื่อนๆ เพื่อเว้นช่องว่างให้ทั้งคุณและเขาได้มีเวลาพักผ่อน เยียวยาความรู้สึกที่แย่ๆ ให้ดีขึ้นได้ เมื่อกลับไปอยู่ด้วยกันคุณจะพร้อมสำหรับความรักมากขึ้น สามารถทนกันและกันได้มากขึ้น ให้อภัยกันได้ง่ายขึ้น และมีช่วงจังหวะหน่วงๆ ให้คิดถึงกัน ระยะห่างที่พอดีๆ นี้จะช่วยทำให้ความสัมพันธ์ที่กระท่อนกระแท่นเริ่มดีขึ้นได้
4.กิจกรรมที่ทำให้หัวใจเต้นแรง
เดี๋ยวก่อน! อย่าเพิ่งคิดว่าเราหมายถึงเซ็กซ์ แต่อยากให้ทบทวนความจำนิดหนึ่ง เคยรู้สึกไหมว่าเวลาได้ทำในสิ่งที่ชอบร่วมกับคนรักมีความสุขขนาดไหน ถ้าห่างหายจากกิจกรรมที่ทำให้หัวใจเต้นแรงไปนานก็ลองหาจุดที่ใช่ ชอบ และคิดว่าจะทำไปด้วยกันได้ คู่ของคุณอาจจะเป็นคู่รักสายเบิร์น เมื่อก่อนเอะอะก็หยิบรองเท้ากีฬาพากันวิ่ง วันนี้ลองสะกิดชวนเขาออกวิ่งไปด้วยกันอีกครั้งสิ หรือในเคสที่คู่ของคุณเป็นสายปาร์ตี้ คอนเสิร์ต ชอบที่ไหนไปที่นั่นเลย หรือจะชวนกันจับเจ่านอนดูซีรีย์อยู่ที่บ้านก็น่าสนใจนะ มันเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยเรียกความทรงจำดีๆ ให้กลับมาแบบเนียนๆ โดยที่แม้แต่เขาเองก็ไม่รู้ตัว
5.เดทเที่ยงคืน
เคยเดทแต่ตอนกลางวันใช่ไหม? และถึงจะเจอหน้ากันบ่อยแค่ไหน แต่การเดทตอนกลางคืนมันให้ความรู้สึกที่ต่างออกไปมากทีเดียว ลองนึกถึงเวลาที่คุณต้องไปงานกลางคืนอย่างงานแต่ง ปาร์ตี้ หรือแฮงก์เอาท์กับเพื่อนสิ มักจะตื่นเต้นและพิถีพิถันในการแต่งตัวมากกว่าตอนกลางวันใช่ไหม ลองจัดตารางวันที่ว่างตรงกันแล้วพากันไปเดทตอนกลางคืนดูสักครั้งสิ แต่เดทครั้งนี้ต้องไม่ใช่แค่ดินเนอร์ในร้านอาหารเดิมๆ ที่เคยไปจนเจ้าของร้านจำหน้าได้ ลองมองหาร้านอาหารใหม่ๆ บรรยากาศดีๆ ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของพวกคุณ แต่งตัว แต่งหน้า อย่างพิถีพิถัน เพื่อให้เขารู้สึกว่าคุณตั้งใจแค่ไหน สรรหา Topic ใหม่ๆ และพูดจาเหมือนคู่รักที่จีบกันใหม่ๆ เพื่อช่วยสร้างบรรยากาศและย้ำเตือนให้เขารู้ว่าตอนเดทกันใหม่ๆ คุณทั้งคู่รักกันขนาดไหน
6.จัดทริปเล็กๆ ออกผจญภัยไปด้วยกัน
นี่อาจเป็นเซอร์ไพรส์เล็กๆ ที่หลายคู่นึกไม่ถึง บางคู่ใช้ชีวิตกันมายาวนานแต่ไม่เคยแม้แต่จะไปเที่ยวด้วยกันสักครั้ง อย่ามัวหักโหมทำแต่งานจนชีวิตรักใกล้พัง และอย่าเอางานมาเป็นข้ออ้างว่าไม่มีเวลาให้กัน หากยังรักกันอยู่จงหันมาใส่ใจ ให้เวลาอย่างพอดีกับงาน ในวันหยุดก็พาคนรักไปพักผ่อนต่างจังหวัด เลือกรีสอร์ทบรรยากาศดีและโรแมนติก อาจจะเริ่มจากทริปใกล้ๆ ใช้เวลาเดินทางน้อยๆ เพื่อที่คุณทั้งคู่จะได้ใช้เวลาด้วยกันเยอะๆ หลังจากนั้นค่อยขยับเป็นทริปยาวๆ เพื่อชุบชีวิตรักให้ฟื้นคืนอีกครั้ง
การรีเฟรชความรักให้กลับมาสดชื่นอีกครั้งนั้นไม่ยากเลย หากไม่อยากให้ความรักจืดจาง ยิ่งนานวันยิ่งเก่า รู้สึกเฉากับชีวิตคู่ ลองใช้ทริคนี้ให้เป็นประโยชน์ รับรองว่า “ความรัก” ของคุณทั้งคู่จะไม่มีวันหมดโปร ถ้าหมั่นเติมแบบมีชั้นเชิงและหมั่นชาร์จแบตรักบ่อยๆ รับรองว่ารักแท้ไม่หายไปไหนแน่นอน