“หน้าหมอง” ประคองให้รอดไม่ยาก เพิ่มสปอทไลท์ให้ผิวหน้าด้วย 5 ทริคนี้

หน้าหมอง เหมือนคนโดนของ ดูไม่มีราศี ทำเอาบรรยากาศรอบตัวอึมครึม คนใกล้ตัวไม่สดชื่นไปด้วย ยิ่งถ้าต้องแต่งหน้ายิ่งหงุดหงิด ทำยังไงให้หน้าไม่ลอย สาวๆ หลายคนที่พบเจอปัญหานี้คงต้องการหาทางออกให้ตัวเองอยู่ เพราะผิวหน้าที่ขาวกระจ่างใส ย่อมดีกว่ามีความหมองคล้ำมาหลอกหลอน

 

ผิวหน้าหมองคล้ำ ปัญหาชวนหงุดหงิดสำหรับผู้หญิงไม่แพ้ปัญหาผิวอื่นๆ เลย สร้างความหนักใจให้กับหลายๆ คนเป็นอย่างมาก จนบางครั้งทำเอาเสียความมั่นใจ ไปจนถึงสูญเสียโอกาสต่างๆ ที่อาจจะเข้ามาเพียงแค่ครั้งเดียวในชีวิตไปอย่างน่าเสียดาย สาวๆ ที่กำลังหาทางออกจากปัญหานี้ คงต้องเริ่มต้นด้วยการรู้จักสาเหตุของปัญหากันก่อนว่าหน้าหมองเกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง

> แสงแดด ถึงแม้ว่าแดดอ่อนๆ จะช่วยให้ผิวได้รับวิตามิน แต่การอยู่ท่ามกลางแดดแรงๆ หรืออยู่กลางแดดที่ร้อนระอุเป็นเวลานานจะทำให้ผิวไหม้ แดง หยาบกร้าน หมองคล้ำ มีจุดด่างดำได้ ไม่เพียงแค่นั้น เส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินก็จะถูกทำลาย ทำให้ผิวมีริ้วรอย หย่อนคล้อย เหี่ยวย่นได้

> มลภาวะ สภาพอากาศปัจจุบันของบ้านเราไม่ได้ดีเหมือนเมื่อก่อน ไหนจะฝุ่นตัวดังอย่าง PM 2.5 เขม่าควันรถ ที่พร้อมจะเกาะติดอยู่กับเมคอัพบนผิวหน้าไปตลอดทั้งวัน ทำให้ผิวหน้าหมองได้ ไปจนถึงการสะสมอุดตันรูขุมขนยิ่งกระตุ้นให้เกิดปัญหาผิวอื่นๆ ตามมา

> ความเครียด เป็นเรื่องที่อยู่เหนือการควบคุม นอกจากส่งผลทางร่างกายและจิตใจให้กลายเป็นคนไร้ชีวิตชีวาหรือหงุดหงิดง่ายขึ้นแล้ว ผิวหนังอันบอบบางก็ได้รับผลกระทบโดยตรงเช่นกัน เพราะเมื่อสาวๆ เครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนชนิดหนึ่งชื่อคอร์ติซอล (Cortisol) ทำให้ระบบการไหลเวียนเลือดและกระบวนการซ่อมแซมผิวถูกรบกวน ทำงานได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้ผิวของสาวๆ ไม่กระจ่างใสนั่นเอง

> ขาดความชุ่มชื้น การที่ผิวมีความชุ่มชื้นไม่สมดุลพอเหมาะพอดีนั้น จะส่งผลเชื่อมโยงคล้ายลูกโซ่ ตั้งแต่ทำให้เกราะป้องกันผิวทำงานได้ลดลง ผิวเกิดการแห้งแตก ลอกเป็นขุย และต่อยอดไปถึงความหมองคล้ำได้ อีกทั้งการใช้เครื่องสำอางที่มีเนื้อแมทท์ และการล้างหน้าที่รุนแรงกับผิวหน้ามากเกินไปก็ทำให้ผิวแห้งและขาดน้ำได้เช่นกัน

 

จะเห็นได้ว่า สาเหตุของปัญหาหน้าหมองล้วนเกิดจากปัจจัยที่ควบคุมได้ยาก จึงทำให้ผิวเกิดความหมองคล้ำได้ง่าย แต่สาวๆ ไม่ต้องกังวล เราขอแนะนำทริคง่ายๆ 5 ข้อ เรียกคืนความกระจ่างใส เสมือนเพิ่มสปอทไลท์ให้กับผิวหน้า ไม่ต้องทนกับหน้าหมองเหมือนคนโดนของอีกต่อไป

5 ทริคลดหน้าหมอง เพิ่มสปอทไลท์ให้กับผิวหน้า

1. เติมวิตามิน กินของดี

ผักและผลไม้เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ที่ร่างกายต้องการอยู่เป็นจำนวนมาก การทานผักและผลไม้ควบคู่ไปกับอาหารมื้อหลักเป็นประจำจะทำให้ร่างกายและผิวได้รับประโยชน์จากวิตามินเหล่านั้น อีกทั้งวิตามินซียังเป็นแหล่งของสารอาหารที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระชั้นดี ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว เสริมภูมิต้านทานให้ร่างกายแข็งแรงและทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งได้ ไม่ว่าจะเป็นส้ม สับปะรด มะละกอ ฝรั่ง ผลไม้ตระกูลเบอร์รี เป็นต้น และไม่เพียงแค่ในผลไม้สดเท่านั้น สาวๆ สามารถหาเมนูอาหารทานเสริมได้อีกด้วย กับ 10 เมนูอาหารคอลลาเจนสูง

 

นอกจากการทานอาหารที่มีประโยชน์จะดีต่อร่างกายกับผิวแล้ว สิ่งสำคัญที่ควรทำก็คือลด ละ เลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ เพราะต่อให้กินอาหารดีมีประโยชน์มากแค่ไหน แต่ยังมีปัจจัยพวกนี้มาคอยบั่นทอน ผิวหน้าหมองก็จะตามหลอกหลอนเหมือนเงาไม่ยอมจากไปง่ายๆ แน่นอน

 

2. กระตุ้นกำจัดพิษ

เพื่อกระตุ้นความกระจ่างใสให้กับผิว ก็ต้องใช้วิธีกระตุ้นการหมุนเวียนของเลือดเข้าช่วยด้วย ในสเต็ปแรกนั้นเป็นวิธีที่เห็นผลได้ชัดเจนสุดๆ คือการออกกำลังกายทุกวัน เพราะเป็นการช่วยให้ร่างกายได้ขับสารพิษ สิ่งอุดตันรูขุมขน ความหมองคล้ำออกมาทางเหงื่อไคล อีกทั้งยังกระตุ้นให้ร่างกายสูบฉีดเลือดลมได้ดี ลดความเครียด ปรับสภาพจิตใจให้สดใสได้

 

สเต็ปถัดมาคือกระตุ้นผิวหน้าโดยตรงด้วยการอบไอน้ำ สาวๆ ที่กังวลว่าจะต้องจ่ายแพงเพื่อแลกกับผิวสวยหายห่วงได้เลย เพราะการอบไอน้ำให้ผิววิธีนี้ง่ายแสนง่าย โดยหลังจากล้างหน้าทำความสะอาดผิวตามปกติแล้ว แค่ใช้ผ้าขนหนูสะอาดชุบน้ำอุ่นบิดให้พอหมาด แล้วประคบลงบนผิวหน้าอย่างเบามือ ทิ้งไว้สักพักจนผ้าขนหนูเย็นตัว แล้วจึงเอาออก จากนั้นทาครีมบำรุงผิวหน้าได้ตามปกติ การอบไอน้ำวิธีนี้เป็นการช่วยเปิดรูขุมขมให้เปิดรับสารอาหารในการบำรุงผิวได้เต็มที่ และกระตุ้นการไหลเวียนเลือดให้ดีขึ้นด้วย

 

3. พอก ขัด ผลัดเซลล์

ในแต่ละวันที่ผิวหน้าต้องเจอปัจจัยหลายอย่างจนทำให้ผิวหน้าหมอง ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศที่เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝน เดี๋ยวตากแอร์ในออฟฟิศ ก็เล่นเอาผิวหน้าปรับสภาพตามไม่ทัน แล้วไหนจะมลพิษในอากาศที่เกาะติดบนผิวหน้า คลุกเคล้าเมคอัพและพร้อมแทรกตัวเข้าอุดตันตามรูขุมขนบนใบหน้าของสาวๆ และถ้าเกราะป้องกันผิวของสาวๆ ไม่แข็งแรง รับรองได้ว่าไม่ใช่แค่หน้าหมองอย่างเดียวแน่ แต่สิว ฝ้า ริ้วรอย จุดด่างดำ เตรียมพร้อมยกขบวนมาทักทายกันได้ง่ายๆ เลย เพราะเหตุผลนี้ การทำความสะอาดผิวหน้าจึงเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของการมีผิวสุขภาพดี สาวๆ จึงต้องพิถีพิถันและให้ความสำคัญกับขั้นตอนนี้เป็นพิเศษ

 

แต่อย่านิ่งนอนใจ หวังจะพึ่งการล้างหน้าอย่างเดียวเห็นจะไม่ได้ ใน 1 สัปดาห์ ควรเพิ่มการดูแลด้วยการขัดผิวหน้า ผลัดเซลล์ผิวและการมาส์กหน้าบ้าง ซึ่งการขัดผิวหน้าจะเป็นการช่วยขจัดหนังกำพร้า มลพิษและเหงื่อไคลที่เกาะแน่นบนผิวหน้าให้ออกไปได้อย่างหมดจด อีกทั้งในระหว่างการขัดผิวยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดใต้ผิวหนังให้ดีขึ้น ผลลัพธ์คือผิวหน้าสดใสและเปล่งปลั่งขึ้น ส่วนการมาส์กหน้าด้วยผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป หรือจากวัตถุดิบธรรมชาติอย่างมะนาว มะขาม ไข่ขาว ขมิ้น จะทำให้ผิวได้รับสารอาหาร เร่งการผลัดเซลล์ผิว เสริมการซ่อมแซม ปรับสีผิวให้ผิวหน้าขาวสวย กระจ่างใสขึ้นได้ด้วย

 

4. ไนท์ครีมเพิ่มความไบร์ท

เพราะกระบวนการทำงานของผิวมีหน้าที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลาตามนาฬิกาชีวิต ช่วงกลางวันทำหน้าที่เหมือนองครักษ์ผู้พิทักษ์คอยป้องกันผิวไม่ให้ถูกทำร้าย ในช่วงเวลากลางคืนก็เปลี่ยนหน้าที่เป็นคุณหมอคอยดูแลฟื้นฟู ซ่อมแซมส่วนต่างๆ ที่เสื่อมสภาพหรือถูกทำร้ายในระหว่างวันให้กลับมาสมบูรณ์แบบอีกครั้ง จึงทำให้ผิวหน้าที่แห้งเสีย หมองคล้ำ ดูขาวกระจ่างใสและเนียนนุ่มขึ้นทันทีเมื่อตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ ดังนั้น ไนท์ครีมจึงมีส่วนสำคัญที่คอยเสริมกระบวนการดูแลผิวให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

และในครีมที่มีส่วนผสมของ AHA หรือกรดผลไม้จะช่วยทั้งเติมความชุ่มชื้นและผลัดเซลล์ผิว แต่สำหรับสาวๆ ผิวแห้งและมีแนวโน้มผิวแพ้ง่าย ควรมองหาไนท์ครีมที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวเสริมด้วย เพื่อให้ผิวได้ซ่อมเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ให้กลับมาแข็งแรงอยู่เสมอ และหัวใจหลักที่อุ้มชูให้ครีมมีประสิทธิภาพสูงสุดคือการพักผ่อนให้เพียงพอ เท่านี้ก็จะช่วยลดริ้วรอยแห่งวัยและรอยคล้ำใต้ตาได้อีกด้วย

 

5. เสกคาถาผู้พิทักษ์

เพื่อป้องกันสาเหตุหลักของหน้าหมองที่เกิดจากแสงแดด อาวุธที่ดีที่สุดในการป้องกันคือการทาครีมกันแดด ถึงแม้ว่าการป้องกันจะไม่ได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็สามารถลดการเกิดปัญหาผิวต่างๆ ได้ดีขึ้น ฉะนั้น ช่วงเวลาพักเที่ยงหรือต้องออกไปเจอแดดก็หันไปหยิบครีมกันแดดทาสักหน่อย หรือสาวๆ ที่แต่งหน้าทุกวันต้องมีกันแดดที่ใช้เป็นประจำอยู่แล้ว ก็ควรทำการบ้านเรื่องค่า SPF หรือคุณสมบัติการป้องกันผิวให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่ต้องออกไปเจอแดดด้วย เพราะการเลือกค่าการป้องกันที่สูงเกินไปจะทำให้ผิวได้รับการระคายเคือง และในทางตรงกันข้าม ถ้าน้อยเกินไปผิวก็จะได้รับการป้องกันไม่ดีเท่าที่ควร จึงมีข้อแนะนำง่ายๆ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA และ UVB จากแสงแดดอย่างได้ผล ควรเลือก SPF ที่มีค่า 30 และต้องมี PA+++ เป็นอย่างน้อย

 

คนโสด_IndiGlow2

 

และเพื่อเป็นการฟื้นฟูผิวหน้าหมอง ด้วยการทวงคืนความขาวกระจ่างใสควบคู่ไปกับการปกป้องผิว ขอแนะนำ IndiGlow® Seductive White Rejuvenating Moisturizer ครีมบำรุงผิวหน้าที่ให้มากกว่าการเติมและกักเก็บน้ำให้กับผิว พร้อมล็อคความขาว ลดเลือนริ้วรอย ปกปิดรูขุมขนทำให้ผิวเนียน และปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ด้วยค่า SPF 30 PA++++  ควบคุมการสร้างเม็ดสีในผิว ให้ผิวสวยเนียน สว่างใส สะกดใจได้ยาวนาน กับนวัตกรรมแห่งการดูแลผิวสุดพิเศษอย่าง IndiGlow White Loc Complex™ ที่ประกอบไปด้วยสารสกัดอันทรงคุณค่าจากธรรมชาติทั้ง 6 ชนิด อ่อนโยนต่อทุกสภาพผิวแม้ผิวแพ้ง่าย ปราศจาก Paraben น้ำหอม ตัวเดียวจบ ตอบโจทย์ได้ครบทุกปัญหาผิวอย่างแท้จริง


Related Posts

Leave a comment